หน้า:นิทานโบราณคดี - ดำรงราชานุภาพ - ๒๔๘๗.pdf/86

หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
71

แม่น้ำคงคาราวสัก 160 เส้น ไนสมัยเมื่อฉันไปยังร้างรกหยู่มาก กรมตรวดโบรานคดีไนอินเดียเปนแต่ได้ขุดค้นเปนแห่ง ๆ เพื่อหาของโบรานส่งไปเข้าพิพิธภันทสถาน ยังไม่ได้ลงมือขุดเปิดไห้เห็นแผนผัง และจัดการรักสาหย่างเดี๋ยวนี้ ไปมรึคทายวันไนสมัยนั้น ยังแลเห็นแต่พระธัมเมกขเจดีย์สูงตระหง่านเปนสำคันหยู่องค์เดียว กับมีเครื่องสิลาจำหลักซึ่งเพิ่งพบไหม่ ยังไม่ทันส่งไปพิพิธภันทสถานรวมไว้แห่งหนึ่ง ฉันขอมาได้บ้าง ดังจะเล่าต่อไปข้างหน้า นอกจากนั้น ยังแลเห็นแต่ดินเปนโคกน้อยไหย่ไปรอบข้าง พระธัมเมกขเจดีย์นั้น ไนหนังสือนำทางแต่งชั้นหลังบอกขนาดว่า สูงแต่รากขึ้นไปตลอดองค์ราว 24 วา วัดผ่ากลางตอนไหย่ 15 วาครึ่ง และตอนไหย่นั้นเปนสิลาขึ้นไปราว 6 วา เมื่อฉันพิจารนาดูพระธัมเมกขเจดีย์ เกิดความเห็นขึ้นไหม่ผิดกับเข้าไจกันหยู่ไนกรุงเทพฯ ที่ว่า ส้างรูปซงเปน 2 ลอนเหมือนลอมฟางดังกล่าวมาแล้ว เพราะไปสังเกตตอนไหย่ที่หยู่เบื้องต่ำเห็นก่อหุ้มด้วยสิลา ตอนเบื้องบนที่คอดเข้าไปก่อด้วยอิถ ฉันคิดเห็นว่า ที่ดูรูปเปน 2 ลอน น่าจะเปนเพราะการแก้ไขเปลี่ยนแปลง มิไช่แบบเดิมเจตนาจะไห้เปนเช่นนั้น คิดสันนิถานต่อไปเห็นว่า ของเดิมคงก่อหุ้มด้วยสิลาตลอดทั้งองค์ ถูกพวกมิจฉาทิตถิรื้อเอาแท่งสิลาตอนข้างบนไปเสีย เหลือทิ้งไว้แต่แกนอิถ หรือมิฉะนั้น พวกมิจฉาทิตถิเจตนาจะทำลายพระเจดีย์นั้นทั้งหมด แต่รื้อลงมาค้างหยู่ครึ่งองค์ ภายหลังมา มีพวกสัมมาทิตถิไปปติสังขรน์ ก่อแกนอิถขึ้นไปตลอดองค์ แต่ไปค้างหยู่ ไม่ได้ก่อสิลาหุ้มตอนบน จึงเหลือ