หน้า:ประชุมจดหมายเหตุ สมัยอยุธยา (ภาค ๑) - ๒๕๑๐.pdf/32

หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
จดหมายเหตุสมัยกรุงศรีอยุธยา
ว่าด้วยทูตสยามไปเจริญทางพระราชไมตรีกับกรุงโรม
เฝ้าโปปอินโนเซนต์ที่ ๑๑
เมื่อวันที่ ๒๕ ธันวาคม จุลศักราช ๑๐๕๐ (พ.ศ. ๒๒๓๑)

เรื่องต่างประเทศ

เรื่องทูตานุทูตสยามครั้งกรุงทวาราวดีศรีอยุธยาโบราณได้ไปเฝ้าโปปเป็นครั้งแรกนี้ ข้างต้นได้แปลออกจากจดหมายเหตุของบาดหลวงตาชารด์ แต่ในตอนปลายนั้นได้แปลออกจากจดหมายเหตุภาษาอิตาลีอันได้ตีพิมพ์ ณ กรุงโรมในปีคริสต์ศักราช ๑๖๘๙ เป็นเนื้อความเพียง ๘ หน้าเท่านั้น เป็นเรื่องหายากที่สุด ครั้งนี้ นับว่า เป็นการแปลเรื่องนี้เป็นครั้งแรก แต่ก่อนยังหามีผู้แปลหรือเรียบเรียงเรื่องราชทูตสำรับนี้ไม่

อนึ่ง รูปราชทูตเฝ้าที่กำกับเรื่องนี้เป็นรูปชักจากรูปแกะอันตีพิมพ์ ณ กรุงโรมในกาลสมัยนั้น บัดนี้ รูปแกะนั้นมีเหลืออยู่แต่ฉบับเดียวเท่านั้น เป็นของปรินศโอเดศกัลกี ณ กรุงโรม อันเป็นเชื้อพระวงศ์ต่อ ๆ มา สืบเชื้อสายของโปปอินโนเซนซ์ที่ ๑๑ อันประสูตรในตระกูลเดิมของปรินศโอเดศกัลกีนั้น รูปชักนี้ ข้าพเจ้าได้มาจากปรินโอเดศกัลกี ได้ทรงชักออกเองแล้วโปรดส่งมาให้ข้าพเจ้า รูปเช่นนี้หามีปรากฏในที่อื่นไม่แล้ว

จ่าหน้ารูปนี้ ข้างบนเขียนเป็นภาษาอิตาลีว่า

Vdicnra data da N,S, Innocenro XI al P Gu' do Tachard della Comp di Gesu' edalli Tre Sig ri Maudarini imrati a $ $ dal Re di Siam efc

แปลว่า "การที่เฝ้าโปปอินโนเซนต์ที่ ๑๑ ของบาดหลวงตาชารด์ กับทูตานุทูตของพระเจ้ากรุงสยาม อันมี ณ วันที่ ๒๕ ธันวาคม คริสต์ศักราช ๑๖๘๘" จ่าหน้ากลาง แปลว่า "บาดหลวงตาชารด์ได้คลี่แสดงพระราชสาสน์ของพระเจ้ากรุงสยามต่อโปปทรงทอดพระเนตร"

จ่าหน้าถัดลงมา แปลว่า "ราชทูตสยามได้นำพระราชสาสน์ออกมาแล้วจึงคุกเข่าลง" หนังสือที่มุมข้าล่างขวามือ แปลว่า "ข้าพเจ้า อารโนลด์เวศเตร์หุด ช่างแกะฮอลันดา ได้แกะรูปนี้มาตีพิมพ์ ณ กรุงโรม สำหรับขาย แต่ปีคริสต์ศักราช ๑๖๘๙"

(เซน) เยรีนี
ว่าด้วยทูตานุทูตสยามออกไปเจริญทาง
พระราชไมตรี ณ กรุงฝรั่งเศส ครั้งที่ ๔

ฝ่ายทูตานุทูตฝรั่งเศสที่มาเจริญทางพระราชไมตรีกรุงสยาม กับราชทูตสยาม มีคุณปานเป็นต้นนั้น คือ ราชทูตฝรั่งเศส ชื่อ มองสิเออลาลูแบร์ ๑ อุปทูต ชื่อ มองสิเออร์เสเบเร ๑ ครั้นสิ้นราชการแล้ว อุปทูตฝรั่งเศสจึงทูลลากลับไปทางเมืองกุยบุรีโดยทางบกจนถึงเมืองมะริด แล้วลงกำปั่นรบฝรั่งเศสที่นั่นกลับไปกรุงฝรั่งเศส แต่ราชทูตฝรั่งเศสนั้นยังรอคอยทูตานุทูตสยามสำรับใหม่ซึ่ง