หน้า:ประชุมพงศาวดาร (ภาค ๑๐) - ๒๔๖๑.pdf/111

หน้านี้ยังไม่ได้พิสูจน์อักษร
๗๖

เจ้ากูเยียะกรุณาตั้งบ้านเมืองตั้งหื้อแก่เผือข้าแด่เทือะ ว่าอันแล้ว พระยาเถรกล่าวว่า เขือเจ้าทั้ง ๒ พี่น้องใคร่เปนท้าวพระยาดังอันดีแล เราหากจักรำพึงต่อเจ้าทั้ง ๒ ซแด ทีนั้นพระยาเถรก็จิงพิจารณาดูหื้อได้รู้แจ้งแล้วจิงพาเจ้าทั้ง ๒ ไปสู่ทิศก้ำวันออกแม่ของ ครั้นไปเถิงที่ ๑ ภายวันออกแม่ของควรตั้งบ้านตั้งเมือง พระยาเถรแต๋งก็หื้อกุมารตั้งบ้านตั้งเมืองในที่นั้นหั้นแล พระยาเถรจิงเอาไม้เท้าขีดไปเปนจันทพยุหะหั้นจิงใส่ชื่อว่าจันทบุรีเพื่ออันแล พระยาเถรจิงแต่งหื้อเจ้าขุนนุ่นผู้พี่เปนพระยาในที่นั้น ได้ชาวทั้งหลายอันอยู่ในที่นั้นเปนบริวารมากนักหั้นแล

 เมื่อนั้นเจ้าตนเปนน้องจึงไหว้พระยาเถรว่า พี่เผือข้าเจ้ากูก็ยังกรุณาให้เปนพระยาแล้ว ขอเจ้ากูจงจักกรุณาหื้อ (เผือข้า) ได้เปนท้าวพระยาแด่เทือะ ว่าอันแล้ว เมื่อนั้นพระยาเถรก็พาเอาเจ้าขุนฟองผู้น้องนั้นคืนมาสู่ทิศก้ำวันตกส่วยเหนือ มาฮอดที่ ๑ ไกลน้ำน่านประมาณ ๕๐๐๐ วา ที่นั้นควรตั้งบ้านตั้งเมือง พระยาเถรจิงเอาไม้เท้าขีดไปเปนเตชะกะพยุหะ จิงใส่ชื่อว่าวรนคร ว่าอันแล ภายลุนคนทั้งหลายจักเรียกว่าเมืองปัว ว่าอันแล พระยาเถรจิงเวรเมืองที่นั้นหื้อเจ้าตนน้องชื่อขุนฟองเปนพระยาหั้นแล จิงหื้อกวาด(คน)ทั้งอยู่ในที่นั้นเปนบริวารหั้นแล แล้วเจ้าเถรแต๋งก็จิงปันแดนเมืองหื้อเจ้าทั้ง ๒ พี่น้องภายหนเหนือท่านุ่นเปนแดน ฝ่ายใต้สุดแห่งศาลเมืองล่างเปนแดนหั้นแล ส่วนหนกาวลาวก็ว่ามาแล้วแล ดังพระยาเถรแต๋งนั้นคือเปนเจ้าฤาษีว่าอันแล ฯ