หน้า:ประชุมพงศาวดาร (ภาค ๑๐) - ๒๔๖๑.pdf/138

หน้านี้ยังไม่ได้พิสูจน์อักษร
๑๐๓

 ครั้นเถิงปีดับเป๋า จุลศักราชได้ ๙๘๗ ตัว เดือน ๔ ขึ้น ๕ ค่ำ วันพฤหัศบดีฤกษ์ ๒๒ ตัว ชื่อพรหมิปาลฤกษ์ พระยาหลวงเมืองนคร ยกเอากำลังศึกมาคุมเอาเมืองน่าน เข้าทางประตูท่าช้างเข้านั่งเมืองน่านวันนั้นแล ท่านได้เสวยเมืองแล้ว ก็มาเล็งหันมหาชินธาตุเจ้าแช่แห้งที่หลุพังซ้ายเฟือนไปสันนั้น ท่านก็ปกป่าวพร้อมเพรียงเสนาอามาตย์ชาวบ้านชาวเมืองทั้งหลายหนภายในสีมา มีสมเด็จเจ้าทีปังกรเปนเค้าเปนประธานแก่สังฆเจ้าทั้งหลาย พากันสร้างแปงปฏิสังขรณ์ใส่จังโกคำทั้งมวลแท่นบัลลังก์ถ้วน ๒ แลแท่นหลวงทั้งมวลลงมาจุแผ่นดินนั้น เงินพระยานันทมิตรข้าซึ่ง ๑๔๐๐ เปนค่าคำแผ่นได้ใส่แท่นบัลลังก์ทั้ง ๔ ด้าน อนึ่งด้วยบริเวณแลระเบียงพระมหาธาตุเจ้า อันพระยาคำยอดฟ้าสร้างนั้นตั้งแต่ประตูน้อยท้ายพระวิหารหลวงเมือใต้มี ๑๑ ห้อง จะดาท่าวเสีย พระยาหลวงน่านท่านก็ชักชวนพระสังฆเจ้าทั้งหลายหมายมีสมเด็จเจ้าทีปังกรเปนประธาน แลชาวบ้านชาวเมืองทั้งหลายสร้างแปงหั้นแล สร้างตั้งแต่ปีกัดไซ้ จุลศักราชได้ ๙๙๑ ตัวมาแลวัน ๑ ด้วยภารกรรมทั้งมวลอันใส่รักแลหางติดคำทั้งมวล ท่านก็ไว้นักแก่พระหลวงวัดกู่คำใส่แล ศรัทธาร้อยเพียใส่แล แท่นบัลลังก์ถ้วน ๒ มาจุแผ่นดินเปนวัตถุพระหลวงกู่คำพันเงินแล เปนค่าคำแผ่นใส่นอก เปนวัตถุอุปการแห่งพระมหาธาตุเจ้ามากนักนับบ่ได้แล พระธาตุเจ้าวัดแช่แห้งแตกรั่วซึมที่ใด พระหลวงเจ้าวัดกู่คำแลศรัทธาร้อยเพียหยุดยาใส่ลดหางติดคำแท่นบัลลังก์ทั้ง ๔ แผ่นธรณีปทักษิณทั้ง