หน้า:ประชุมพงศาวดาร (ภาค ๑๐) - ๒๔๖๑.pdf/140

หน้านี้ยังไม่ได้พิสูจน์อักษร
๑๐๕

น่านได้แล้ว จับเอาตัวพระยาแหลมุมลงไปเมืองใต้ ลวดไปฉิบหายเสียเมืองใต้ คนทั้งหลายจึงเรียกว่าพระยาโขง ว่าอันแล ได้ ๔๕ เช่นท้าวแล ฯ

"0.8"px ครั้นเถิงปีดับไส้ จุลศักราชได้ ๑๐๒๗ ตัว มหาธรรมเจ้าจิงหื้อพระยายอดใจตนน้องเสวยเมืองน่านแทนในปีนั้น ท่านก็ลงมาตั้งอยู่เมืองปัวหั้นก่อน ครั้นเถิงปีรวายซง้า จึงลงมาอยู่เมืองน่าน ท่านอยู่เสวยเมืองได้ ๒๓ ปีปาย ๗ เดือน มาฮอด จุลศักราชได้ ๑๐๔๙ ตัว ปีเมิงเม้าเดือนยี่แรม ๗ ค่ำ วันอาทิตย์ ยามกองแลง ท่านก็อนิจกรรมไปวันนั้นแล ได้ ๔๖ เช่นท้าวแล ฯ

"0.8"px เถิงปีกัดไซ้ จุลศักราชได้ ๑๐๕๑ ตัว มหาธรรมเจ้าก็หื้อเจ้าพระเมืองราชาตนเปนน้องพระยาแหลมุมมาเสวยเมืองน่านแทนในปีกัดไซ้นั้นแล ท่านเสวยเมืองได้ ๑๕ ปี เถิงปีกาเม็ด จุลศักราชได้ ๑๐๖๕ ตัว เดือน ๑๒ ขึ้นค่ำ ๑ วันเสาร์ ยามพันรุ่งเมื่อคืนฟังคำลาวแสนแก้วว่าราฟื้นม่าน พระสังฆเจ้าทั้งหลายได้รู้แล้วเมตตามันก็บ่ฟัง ครั้นเถิงเดือน ๗ ขึ้น ๑๐ ค่ำ วันศุกร์ยามเที่ยงวัน กองทัพพม่าก็ลงมา ยังบ่ทันเถิงเมืองเทือะ ในวันนั้นคือยามเที่ยงวันนั้นเจ้าพระยาเมืองราชาหันจะต่อจนกำลังมันบ่ได้ ก็เอาครอบครัวลูกเมียหนีไปเมืองล้านช้างโพ้นกับด้วยชนลาวแสนแก้วแล ต่าวลาเสียหั้นแล พระสังฆเจ้าก็พ่ายหนีวันนั้นแล ชาวบ้านชาวเมืองก็แตกหนีไป บางพ่องก็ไปลี้ซ่อนอยู่ป่าไม้ถ้ำดอยห้วยก็มีแล เถิงวัน ๑๔ ค่ำ ทัพม่านก็เข้ามาเถิงในเมืองหั้นแล

๑๔