หน้า:ประชุมพงศาวดาร (ภาค ๑๐) - ๒๔๖๑.pdf/153

หน้านี้ยังไม่ได้พิสูจน์อักษร
๑๑๘

 ฝ่ายเจ้าหลวงอริยวงษ์เมืองน่านก็จัดได้กำลังศึกแล้ว ก็ยกทัพขึ้นรบม่านที่ปากงาวเหนือเวียงน่านนั้น ม่านก็แตกพ่าย หนีไปหั้นแล ฯ

 ในกาลนั้นมหากระษัตริย์อังวะได้รู้ว่าลานนาไทยทั้งมวลพลิกฟื้นสันนั้นแล้ว อยู่มาฮอดจุลศักราช ๑๑๒๙ ตัว ปีเมิงไก๊ ก็แต่งหื้อโปอเสหงวนคือเปนโปโชกมีกำลังหมื่นหนึ่ง ยกทัพขึ้นมาฮอดเชียงใหม่เดือน ๓ ขึ้น ๑๐ ค่ำ ยามนั้นพระยา จ่าบ้านเจ้าเมืองเชียงใหม่แลพระเมืองไชยลพูนก็กวาดเอาไพร่ไทยในเมืองเชียงใหม่แลเมืองลพูนมีกำลังสามพัน ก็ เอาข้ามอยู่ในเวียงลพูนนั้นแล เมื่อนั้นม่านก็ยกมาแวดวัง ขังอยู่แต่วันเดือน ๓ ขึ้น ๑๑ ค่ำ ฮอดเดือน ๔ ลง ๑๔ ค่ำ เม็งวันพฤหัศบดี ยามสู่แจ้ง เวียงลพูนก็แตก แลม่านก็จับเอาพระยาจ่าบ้านเชียงใหม่ขังตัวพระเมืองไชยเมืองลพูนนั้นก็ออกหนีพ้นไปเข้าสู่เมืองฮ่อตราบเถิงบัดนี้แล ครั้นว่าม่านได้เวียงลพูนแล้ว ก็ยกกองทัพเข้ามานคร เมืองแพร่ เมืองน่าน มาเถิงเมืองน่านเดือน ๕ ลงค่ำ ๑ เมืองน่านก็พ่ายหนีไปเมืองลาว อยู่เมืองลาวได้พรรษา ๑ เถิงปีเบิกไจ๊ จุลศักราชได้ ๑๑๓๐ ตัวก็คืนมาตั้งอยู่เมืองน่านดังเก่าหั้นแล ฯ

 ดังเจ้านายอ้ายตนเปนหลานไปเอาราชการเมืองใต้ ทวยม่านนั้นก็ตีเอาเมืองใต้ได้ในจุลศักราชได้ ๑๑๒๙ ตัว ปีเมิง ไก๊นั้นแล ครั้นว่าม่านได้เมืองใต้แล้ว ม่านก็เอาเจ้าฟ้าดอกเดื่ออันเปนเจ้าเมืองใต้คืนเมืองอังวะพุ้นหั้นแล เมือทาง เมาะตมะทวายแลดังตัวเจ้านายอ้ายนั้นก็เอาติดตามทวยม่านเมืองทางแสนนั้นแล ครั้นเมือเถิงเมืองอังวะแล้วเจ้านายอ้ายก็ได้กราบทูลมหากระษัตริย์เมืองอังะหั้นแล ฯ