หน้า:ประชุมพงศาวดาร (ภาค ๑๐) - ๒๔๖๑.pdf/163

หน้านี้ยังไม่ได้พิสูจน์อักษร
๑๒๘

เถิงริมน้ำน่านแล้ว เจ้าตนน้าก็โจนลงน้ำทัดที่วังคือหั้นแล เกือบสิ้นชีวิตร ดังบ่าวท่านผู้นั้นก็โจนลงทวยแห่งตนแล้ว ก็กุมฟุยเอาเจ้าตนไปฟากน่านก้ำน่าแล้วก็พาหนีไปหั้นแล เมื่อนั้นเจ้าตนหลานก็พาเอาท้าวขุนบ่าวไพร่คืนมาเสียก่อนหั้นแล

 ในศักราชนั้นสิ่งเดียว เจ้าตนเปนหลานก็พาเอาท้าวขุนบ่าวไพร่ลงไปหาเจ้าพระยามงคลวรยศตนเปนน้าที่เมืองท่าปลา แล้วก็พูดด้วยกิริยาภาวะด้วยเจ้าสมณะตนเปนน้ากระทำแด่ตนนั้นหั้นแล เมื่อนั้นเจ้าพระยามงคลวรยศตนเปนน้าอันเปนผู้เถ้าแก่นั้น ท่านก็มีคำตักเตินห้ามขอกับเจ้าตนหลานก็บ่หื้อมีความอาฆาฎหมายมั่นแก่พ่ออาว์ ขอเจ้าตนเปนหลานอย่าได้ถือสาพ่ออาว์ เทือะ อนึ่งบ้านเมืองน่านของเรานี้ ต่อนี้ไปภายน่าเยี่ยงสันใดจะดีกานกุงรุ่งเรืองไปภายน่านั้น น้าก็จักมอบปงหื้อเจ้าตนหลาน ได้ครอบครองรักษาทั้งมวลแล้วแล อนึ่งน้าก็เถ้าแก่แล้ว น้าได้ครอบครองเมืองมาก็ได้ ๒ ปี ๓ ปีแล้ว บ้านเมืองก็บ่มั่นบ่แก่นสัก เทือะแล เจ้าตนหลานครั้นว่าได้ยินเจ้าตนเปนน้ามีคำตักเตือนสันนั้นท่านก็มีความยินดีแล้วก็อนุญาตปลดปลงยังโทษ แลคุณทั้งมวลแก่เจ้าสมณะตนเปนน้านั้นแล้ว ท่านก็ลาเจ้าพระยามงคลวรยศตนเปนน้าขึ้นมาอยู่บ้านติ้ดบุญเรืองก่อนหั้นแล

 เจ้าพระยามงคลวรยศคือเจ้าจันทปโชตนั้น ท่านได้เปนเจ้าครองเมืองน่านได้ ๔ ปี เถิงปีรวายซง้าจุลศักราชได้ ๑๑๔๘ ตัว ปีนั้น ท่านก็ได้มอบฝูงบ้านมืองน่านทั้งมวลหื้อเจ้าอัตถวรปัญโญตนเปนหลาน ได้ครอบครองรักษาต่อไปก่อนแล ผิจักนับแต่เจ้าขุนฟองมา ก็ได้ ๕๖ เช่นตนเสวยเมืองแล ฯ