หน้า:ประชุมพงศาวดาร (ภาค ๑๐) - ๒๔๖๑.pdf/17

หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
(๑๐)
จาฤกเขาแก้วดังต่อไปนี้

 ศิริศุภมัสดุ จุลศักราชได้ ๑๒๖๘ ตัว มเมียสนำกัมโพชะขอมพิไสย เสด็จเข้ามาในโคนวิถีเหมันตนฤกษตุมิคสิรมาเส กึสนปัก์เขเอกวีสติ ดิถียัง พึคุวาฬไถง ไทยภาษาว่าปีรวายสง้า ฤดูเดือน ๓ น่านแรม ๖ ค่ำ เม็งวันเสาร์ ไทยเต้าสง้า ทิวาทิฐถี ๒๑ นาที ทิฐถี ๖๐ เทวตานาที ๔๐ จันทรจรณยุคติ เสด็จเข้ามาเทียมทัน ขสันคบคู่โมทติอยู่กับด้วยนักขัตฤกษ์ดวงถ้วน ๑๐ ชื่อว่ามาฆะทริโทเข้าสถิต ปรากฎอยู่ในสิงหะเตโจราสี อตีตวรพุทธสาสนา ๓ ล่วงแล้ว มีตามบาฬีว่า เอกุณปัญญาสจตุสัตเทวสหัสสสัง ๒๔๔๙ พรรษา สัตมาเสปลาย ๗ เดือน เอกวีสติทิวาปลาย ๒๑ วันทั้งวันนี้ อนาคตวรชินสาสนายังจักมาณะเบื้องน่า ยังมีตามบาฬีว่า โสตถิ ปัญจสตัง เท๎วสหัสสสัง ยังบ่น้อย ๒๕๖๐ พรรษา จตุมาเสปลาย ๔ เดือน อัตถทิวาปลาย ๘ วัน นับตั้งวันพุกถูกโบราณ พลึงคโหราร ฤกษสีสนถิกาบาฬี สังเกตุ

เหตุนั้น หมายมีพระราชศรัทธา มหาอุปาสกะ พระเจ้าองค์ทงนามว่า พระเจ้าสุริยพงษ์ผริตเดชฯ พระเจ้าผู้ครองนครเมืองน่าน ที่นี้เปนประธานกว่าอรรคชายาราชเทวีผู้มีนามว่า เจ้านางยอดหล้า แลราชบุตรกุลวงษานุวงษ์ เสนาอามาตย์ราชบริวารทุกท่านทุกคน บังเกิดมหากามาวจรกุศลจิตร ติดในพระรัตนัตยาธิคุณเปนอันยิ่ง จึงลำเพิงหันภูเขาแก้วซึ่งตั้งอยู่ทิศตวันตกเวียงนครน่านที่นี้ ก็นับเปนที่ถาปันนายังพระเจติยสาริกธาตุ จึงโปรดเกล้าฯ ให้เจ้าไชยสงครามเปน