หน้า:ประชุมพงศาวดาร (ภาค ๑๐) - ๒๔๖๑.pdf/182

หน้านี้ยังไม่ได้พิสูจน์อักษร
๑๔๗

 สมเด็จเจ้าฟ้าท่านได้เสวยราชสมบัติเมืองน่าน ๒๒ ปีนี้ ได้เปนข้าฝ่ายใต้ เปนพระยาน่านอยู่เมืองเทิงได้ ๓ ปีนั้น เปนข้าฝ่ายเหนือ รวมท่านได้เปนเจ้าเสวยเมืองเทิงแลเมืองน่านได้ ๒๕ ปีแล ได้ ๗ เช่นชั่ววงษาแล ผิจะนับแต่เจ้าขุนฟองโพ้นมาได้ ๕๗ เช่นตนเสวยเมืองแล

 ในจุลศักราชได้ ๑๑๗๒ ตัวปีกดซง้านั้นเดือน ๓ ขึ้น ๑๐ ค่ำเม็งวันพฤหัศบดีนั้น เจ้าพระยามหาอุปราชตนเปนน้าอยู่รักษาเมือง ภายหลังท่านก็ได้ขึ้นเมือผ่อพระเจดีย์ทิพเจ้าเขาแก้ววันนั้น ข้าหลวงชื่อพระยาจันททิพถือหนังสือตราพระมหากระษัตริย์เจ้าเมืองใต้ขึ้นมาตั้งเจ้าพระยามหาอุปราชตนเปนน้านั้น หื้อเปนพระยาน่านในวันนั้นแล พระมหากระษัตริย์เจ้าก็เลื่อนยศขึ้นว่า สุมนเทวราช เจ้าพระยาน่าน ว่าอันหั้นแล ครั้นว่าได้รับเมืองแล้ว เถิงเดือน ๖ ลง ๓ ค่ำ ท่านก็ล่องลงไปเฝ้าพระมหากระษัตริย์เจ้าเมืองใต้ตนลูกหั้นแล เถิงเดือน ๗ ลง ๔ ค่ำ ก็เถิงกรุงเทพมหานครในวันนั้นแล

 เถิงจุลศักราชได้ ๑๑๗๓ ตัวปีลวงเม็ดเดือน ๗ ลง ๖ ค่ำวันปีใหม่พระมหากระษัตริย์เจ้าจิงพระราชทานหื้อแก่เจ้าหลวงสุมนเทวราช คือ มีพานพระศรีคำใบ ๑ จอกคำ ๒ ใบ ผะอบยาสูบคำ ๒ อัน ซองพลูคำอัน ๑ มีดด้ามคำอัน ๑ อุบนวดคำใบ ๑ คนโทคำลูก ๑ กะโถนคำใบ ๑ แหวนธำมรงค์ราชลูกดีพลอยเพ็ชรต้น ๑๐ กลาง ๑๐ สองวง พระกลดแดงดอกคำใบ ๑ ปืนลอง ชนเครือคำบอก ๑ ปืนลองชนต้นเรียบ ๒ บอก ต้นกลม ๓ บอก ผ้ายกไหมคำหลวงสังเวียนผืน ๑ ผ้านุ่งยกไหมคำ ๔ ผืน ผ้าโพก ริ้วทองผืน ๑ เสื้อจีบเอวภู่ตราดอกคำผืน ๑ แพรขาวผุดดอกคำผืน ๑ มุ้งแพร ๒ หลัง สโต๊กเงิน ๒ ใบ มีสันนี้แล