หน้า:ประชุมพงศาวดาร (ภาค ๑๐) - ๒๔๖๑.pdf/188

หน้านี้ยังไม่ได้พิสูจน์อักษร
๑๕๓

 ในศักราชเดียวนี้ อาชญาเจ้าหลวงท่านก็มาเล็งหันยังพระวิหารหลวงแช่แห้งเปนอันหลุต่ำคร่ำเสียแล้ว ท่านก็ได้พาเอาขัติยวงษาเสนาอามาตย์กระทำหยดยาสร้างแปงภายบนมีแปแลแป้นแนบ ภายลุนได้ก่อฝาพนักแวดรอบพระวิหารแลเลิก สร้างติดตอมยังพระพุทธรูปเจ้าองค์หลวง ทารักติดคำใหม่นั้นแล บ่เท่าแต่นั้นท่านก็ได้สร้างแปงฉัตรหลวง ๔ ใบ กระทำแล้ว ด้วยไม้แก่น มุงด้วยแป้น หุ้มด้วยแผ่นทองแดง เสี้ยงทองแดงหนัก ๑๒๐,๐๐๐ แล ต้องด้วยลายดอกประดับด้วยแก้ว แลใส่รักหางติดด้วยสุวรรณคำแดง แลติดด้วยข่ายใบไรแลหล่อมะเด็งหลวง ๒ ลูก ลูก ๑ เสี้ยงทอง ๑๗๐,๐๐๐ ลูกหนึ่งเสี้ยงทองหนัก ๑๓๐,๐๐๐ แลปลูกหอมะเด็ง ๒ หลังไว้วันตกวันออกหั้นแล

 เถิงเดือน ๖ เพ็งเม็งวันอาทิตย์ ท่านก็พร้อมกับด้วยอรรคมเหษีแลหน่อขัติยวงษาแลเสนาอามาตย์ไพร่ไทยทั้งภายในแลภายนอกในจังหวัดนครน่านทั้งมวล กระทำพุทธาภิเศกเบิกบายฉลองถวายหื้อเปนทานไว้กับพระพุทธสาสนาบูชาพระมหาธาตุเจ้าหั้นแล บ่เท่าแต่นั้นท่านก่อคน ๓ คนแม่ลูก ชาย ๒ หญิง ๑ ไว้กับพระมหาธาตุเจ้าภูเพียงแช่แห้งที่นั้นตราบเมี้ยน ๕๐๐๐ พรรษาวันนั้นหั้นแล ดังพระสงฆเจ้าได้นิมนต์มารับไทยทานในสมัยนั้น เส้นหัววัดมี ๑๖๕ หัววัด เจ้าภิกษุมี ๓๗๙ องค์ เณรมี ๗๔๙ องค์แล

 เถิงเดือน ๖ ลง ๖ ค่ำเม็งวันศุกร แผ่นดินไหวในวันนั้น ยอดมหาธาตุเจ้าภูเพียงแช่แห้งก็หักลงห้อยอยู่แล ในเดือน ๖ ลง ๑๓ ค่ำ ๒๐

๒๐