หน้า:ประชุมพงศาวดาร (ภาค ๑๐) - ๒๔๖๑.pdf/192

หน้านี้ยังไม่ได้พิสูจน์อักษร
๑๕๗

บังเกิดลมใหญ่ลุกทิศตวันตกมาพึศเพิงกลัวยิ่งนัก พัดต้นไม้แลหอเรือนคนทั้งหลายหักก่นก้านเปนอันมาก อนึ่งเหื่อพระเจ้าวัดช่างคำองค์หลวงแลพระเจ้าที่อุโบสถ ก็ออกอันยอดพระธาตุภูเพียงแช่แห้งก็คดไปทางตวันออกแจ่งใต้หั้นแล

 เถิงเดือน ๙ ลง ๙ ค่ำ จุลศักราชได้ ๑๑๘๗ ตัวปีดับเล้า พระมหากระษัตริย์จิงตั้งเจ้าราชวงษ์ตนชื่อมหายศ ตนเปนบุตรเจ้าฟ้าอัตถวรปัญโญ เปนพระยาน่านแทนหั้นแล พระมหากระษัตริย์เจ้าก็พระราชทานเครื่องยศหื้อเหมือนดังพระยาน่านตนเก่าหั้นแล

 เจ้าหลวงมหายศครั้นว่าได้รับพระราชทานเครื่องยศเปนเจ้าพระยาน่านแล้ว ก็กราบทูลลาพระมหากระษัตริย์เจ้าขึ้นมาเถิงเมืองแล้ว ท่านก็มายั้งพักอยู่ตำหนักดอนไชยเวียงเก่าที่นั้น เถิงเดือน ๑๑ ลง ๘ ค่ำ ท่านก็เสด็จขึ้นสถิตย์อยู่ในมงคลนิเวศน์ที่เก่าท่านก่อน ในจุลศักราช ๑๑๘๗ ตัวปีดับเล้า เดือน ๖ ลง ๔ ค่ำเม็งวันเสาร์ยามทูตซ้าย มหาขัติยราชวงษาเสนาอามาตย์ทั้งหลาย ก็อาราธนาเชิญท่านขึ้นสถิตย์สำราญในราชนิเวศน์โรงหลวง แทนเจ้าสุมนเทวราชสร้างไว้นั้นแล

 เถิงจุลศักราชได้ ๑๑๘๘ ตัวปีรวายเสร็จเดือน ๖ ลง ๖ ค่ำท้องตราพระราชสีห์เรียงลำดับหัวเมืองเมืองพิไชยส่งขึ้น เถิงจุลศักราชได้ ๑๑๘๖ ตัวปีกาบสันเดือน ๕ ลง ๕ ค่ำ ท่านก็หื้อป่อคุ้มแก้วด้านลางยาว ๗๙ วา ลางขวางมี ๗๐ วาแล มาเถิงเมืองน่าน ว่าเจ้าอนุเวียงคิดขบถต่อพระมหากระษัตริย์เจ้าเมืองใต้หื้อพระยาน่านได้เกณฑ์กองทัพ ๕๐๐๐ คน ไว้จักยกเข้าไปตีเอาเมืองจันทบุรี