หน้า:ประชุมพงศาวดาร (ภาค ๑๐) - ๒๔๖๑.pdf/46

หน้านี้ยังไม่ได้พิสูจน์อักษร
๑๑

อันได้ ๑๖ ปีนั้น ทุกคนมีโฉมโนมพรรณอันงามล้วนถ้วนทุกแห่ง คนทั้งหลายมาเห็นจึงพูดจากันว่า คนทั้งหลายฝูงนี้ จากทางใดมาจา ว่าดังนั้นแล้ว คนทั้งหลายซึ่งได้มาเห็นก็เล็งขึ้นเมือภายบน ก็เห็นพะโองเงินอันนั้นแล้ว ก็เรียกกันมาดู พะโอ งอันนั้นก็รุดหยุดขึ้นเมืออากาศ บางคนร้องบอกกันว่า พะโองเงินยัง พะโองเงินยัง ว่าดังนั้นแล้ว ภายหลังก็เรียกว่าเปนเมือง เงินยัง นัยหนึ่งว่าไม้พุดทราต้นนั้น มีเปลือกอันขาวเหมือนเงินตั้งอยู่กลางยาง จึงเรียกว่าเมืองยางเงินก็ว่าแล ฯ

 เมื่อนั้นชาวเมืองทั้งหลายเห็นอัศจรรย์แห่งลาวะจะกะระกุมารตนนั้นมากนักฉันนั้นแล้ว ก็พร้อมกันตบแต่งเอาราชรถ แล้วก็เชิญท่านขึ้นทรงราชรถ แล้วก็อุสาราชาภิเศกให้เปนเจ้าเปนใหญ่แก่ลานนาไทยทั้งหลายนั้นแล ครั้นว่าได้เปน เจ้าเปนใหญ่แล้ว ก็บอกกล่าวท้าวพระยาทั้งหลายเก้าร้อยเก้าสิบแปดเมือง เว้นแต่เมืองหริภุญไชย กับเมืองศุโข ไทยเท่านั้น นอกกว่านั้นไปพร้อมด้วยพระยาลาวะจะกะระราชเจ้าแล้ว เจ้านำเอาท้าวพระยาทั้งหลายไปพร้อมกับ ด้วยพระยาอนุรุทธรรมิกราชนับสิ้นนั้นแล ฯ

 เมื่อนั้นพระยาอนุรุทธเจ้า ก็พร้อมด้วยพระยาทั้งหลาย ตัดศักราช ๖๒๒ ตัว อันพระยาพันธุมติตั้งไว้นั้นเสีย ในปีจอ สัมฤทธิศกคือกลางคืน คือเดือนหกขึ้นหนึ่งค่ำ เพ็งวันอาทิตย์ ยามใกล้รุ่งแล้ว จึงตั้งศักราชใหม่ขึ้นหนึ่งตัว ยามรุ่ง แจ้งวันจันทร์ ตกใหม่แล้ว เปนปีกุญเอกศกนั้นแล เมื่อนั้นพระยาอนุรุทธธรรมิกราช