หน้า:ประชุมพงศาวดาร (ภาค ๑๔) - ๒๔๗๒ a.pdf/19

หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว

ให้อากาจอแทงคุมพลหมื่นหนึ่งยกเป็นกองหน้า มังลอกกับพลสองหมื่นเป็นทัพหลวงยกไป เดือน ๑๒ แรม ๑๐ ค่ำ ถึงเมืองตองอู เดือนยี่ ขึ้น ๒ ค่ำ ได้เมืองตองอู จับได้สะโดะอุจจะหน่าทั้งบุตรภรรยาเสนาอำมาตย์ กวาดต้อนเอาขึ้นไปณเมืองมุกโซโบ ครั้นถึงแล้ว จะได้ทำอันตรายเสียหามิได้ มังลอกเลี้ยงไว้คุ้งเท่าบัดนี้ และตละป้านพระยาต่อพระยาซึ่งพาบุตรภรรยาอพยพหนีไปเมื่อครั้งเมืองหงสาวดีแตกครั้งนั้น ไปอยู่เกาะปี้น แขวงเมืองมัตมะ มังลอกจึ่งสั่งให้ละเมิงหวุ่นคุมพล ๓๐๐๐ ให้ไปเกลี้ยกล่อมตละป้านพระยาต่อพระยา ละเมิงหวุ่นยกมาถึงเมืองมัตมะ เกลี้ยกล่อม ตละป้านพระยาต่อพระยาก็เข้าด้วย ตละป้านจึงว่าแก่ละเมิงหวุ่นว่า ถ้าข้าพเจ้าเป็นข้าเจ้าอังวะ ข้าพเจ้าก็เป็นคนโง่ และเจ้าอังวะได้ข้าพเจ้าแล้ว เลี้ยงข้าพเจ้าไว้ไม่ฆ่าข้าพเจ้าเสีย เจ้าอังวะก็เป็นคนโง่ แต่ว่าจับมารดาข้าพเจ้าได้ครั้งหงสาเสียนั้นแล้ว ถึงชีวิตจะตาย จะขอเห็นหน้ามารดาหน่อยหนึ่งเถิด แล้วส่งไปเมืองมุกโซโบ มังลอกก็เลี้ยงตละป้านพระยาต่อพระยาไว้ ๚

 อนึ่ง เมืองเชียงใหม่กับเมืองออกห้าสิบเจ็ดหัวเมืองนั้นเคยขึ้นแก่เมืองรัตนบุรอังวะ บัดนี้ ละอย่างประเวณีเสีย หาได้ไปมาเอาเครื่องบรรณาการมาถวายตามอย่างตามธรรมเนียมแต่ก่อนไม่ ครั้นศักราชได้ ๑๑๒๕ ปี เดือน ๑๒ ขึ้น ๘ ค่ำ มังลอกจึงเกณฑ์ให้ติงจาแมงฆ้องคุมคน ๓๐๐๐ เป็นกองหน้า จึงตั้งให้ธาปะระกามะนี คนเจ็ดพัน