หน้า:ประชุมพงศาวดาร (ภาค ๑๔) - ๒๔๗๒ a.pdf/24

หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
๑๔

ประมาณทางห้าร้อย โปสุพลารู้ว่า พระยาจ่าบ้านคิดการประทุษฐร้าย เข้าด้วยกองทัพไทย กลับจะรบโปสุพลา ๆ จึงกลับทัพเข้าไปอยู่ในเมืองเชียงใหม่ พอกองทัพกรุงศรีอยุธยายกขึ้นมา ทั้งกองทัพกาวิละ พระยาลคร พระยาจ่าบ้าน บรรจบกันเข้าล้อมเมืองเชียงใหม่ โปสุพลา เนมะโยกามะนี แตกหนีออกจากเมืองเชียงใหม่ไปอยู่เมืองหน่าย ฝ่ายภรรยาโปสุพลาซึ่งอยู่ณเมืองอังวะนั้น เจ้าอังวะจำไว้ ภรรยาโปสุพลาให้คนมาบอกโปสุพลาว่า อย่าให้ไปเมืองอังวะเป็นอันขาดทีเดียว โปสุพลาจึงหลบหลีกอยู่ณบ้านซุยเกียน ใกล้กันกับเมืองตองอูทางห้าวัน ๚

 เมื่อศักราชได้ ๑๑๓๕ ปี มีตราลงมาแต่เมืองอังวะให้ปะกันหวุ่นเกณฑ์เอารามัญหมื่นหนึ่งเป็นแม่ทัพไปตีกรุงศรีอยุธยา ปะกันหวุ่นจึงเกณฑ์ให้พระยาเจ่ง ตละเซ่ง พระยาอู เป็นกองหน้า กับไพร่สามพัน ให้แพ่กิจาเป็นแม่ทัพยกก่อน ไปตั้งฉางอัศมี ฉางปาศัก ลำเลียงเอาเสบียงอาหารเข้าไว้ให้ได้เต็มฉาง ออกพระวัสสาแล้ว ปะกันหวุ่นกับไพร่เจ็ดพันจึ่งจะยกไปตาม ๚

 ครั้นศักราชได้ ๑๑๓๖ ปี จะให้ยกกองทัพลงมาแต่เมืองอังวะไปตีเอากรุงทวาราวดีศรีอยุธยา ปะกันหวุ่นผู้เป็นเจ้าเมืองมัตมะเก็บเอาเงินทองแก่ภรรยานายทัพนายกองและไพร่สมิงรามัญซึ่งยกไปทำฉางนั้น ไพร่พลเมืองได้ความเดือดร้อนนัก ตละเกิ้งจึงมีหนังสือไปถึงพระยาเจ่ง ตละเซ่ง สมิงรามัญทั้งปวงว่า ปะกันหวุ่นทำให้ได้ความร้อนเข็ญสุดที่จะทนแล้ว ให้พระยาเจ่ง ตละเซ่ง สมิงรามัญ เร่งคิดยกทัพกลับมาณเมืองมัตมะเป็นการเร็ว พระยาเจ่ง ตละเซ่ง สมิงรามัญทั้งปวง