หน้า:ประชุมพงศาวดาร (ภาค ๑๔) - ๒๔๗๒ a.pdf/39

หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
๒๙

 ณศักราช ๑๑๖๐ ปีมะเมียนักษัตร สัมฤทธิศก กามะสะแข่งก่อการกบฏ เจ้าอังวะรู้จึงอุบายว่า จะรบกรุงไทย หวังจะขยายคนตองอูเสียจากเมือง ให้เกณฑ์กามะสะแข่งเป็นทัพเกียกกาย เมียงหวุ่นเป็นนายกองหน้า เจ้าอังวะยกมาตั้งอยู่เห่ยจี่ เหนือตองอูทาง ๓๐๐ กามะสะแข่งแต่งหนังสือลับลอบให้เมียงหวุ่น แล้วคิดกลกับกะเหรี่ยงให้ยกมาเป็นยางแดง จะตีเอาตองอู แล้วบอกหนังสือว่า จะไปเฝ้าขอเอาคนมาช่วยรักษาเมืองตองอูอีก เจ้าอังวะรู้กลกามะสะแข่งจะทำร้าย จึงจัดแจงทัพออกจับอ้ายกะเหรี่ยง แล้วให้จับเอาตัวเมียงหวุ่นกองหน้าและกามะผู้ลูกผูกจำโซ่ตรวน แล้วก็เลิกทัพกลับไปแต่ศักราช ๑๑๖๑ ปีมะแมนักษัตร เอกศก ๚

 ตั้งแต่ศักราช ๑๑๖๐ ปีมะเมียนักษัตร สัมฤทธิศกนั้นมา ในเมืองอังวะมีผู้อาชญาสิทธิ ๓ แห่ง แม้นนักโทษถึงตาย ฝ่ายอาชญาเจ้าอังวะนั้นให้ตัดศีรษะ อาชญาอินแซะนั้นให้เชือดเนื้อแต่เท้าขึ้นไปจนถึงฅอ แล้วจึงเอาดาบตัดศีรษะเสียบ้าง ลางทีให้เอาเลื่อยตัดฅอเสียบ้าง อาชญาเจ้าจักแคงผู้หลานนั้น ให้ตัดขาเสียข้างหนึ่ง แล้วจึงให้คลอกด้วยเพลิง ๚

 ณศักราช ๑๑๖๐ ปีมะเมียนักษัตร สัมฤทธิศก เจ้าอังวะถือเอาความรู้ครูอาจารย์ข้างแขกว่า เวลาเช้านั้น ตะวันตกจากทวีปโน้นเข้ามาทวีปนี้ ห้ามมิให้พระสงฆ์ฉันจันหัน ว่า ตะวันยังไม่ควรเวลา ถ้าถึงตะวันเที่ยงเมื่อใด จึงให้ฉันจันหันเช้า ครั้นเพลาตะวันตกลับแลเห็นดาว