หน้า:ประชุมพงศาวดาร (ภาค ๑๔) - ๒๔๗๒ a.pdf/41

หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
๓๑

แต่เพียง ๕๐๐ ปี บัดนี้ สิ้นพระพุทธสาสนาแล้ว แต่นี้สืบไป ให้ราษฎรทั้งหลายเข้ามาทำบุญให้ทานแต่ฉะเพาะพระพุทธรูปและรูปพระอรหันต์ จะมีประโยชน์ไปภายหน้า อันจะทำบุญแก่ภิกษุสงฆ์ทุกวันนี้หามีผลประโยชน์ไม่ เจ้าอังวะให้เอาบุตรข้าพระโกนศีรษะนุ่งแต่งผ้าเหลืองไว้สำหรับครบองค์พระอรหันต์ ครั้นเจ้าอังวะทำบุญครั้งใด ให้แต่งเครื่องสักการบูชาบิณฑบาตถวายไว้ที่หน้าพระพุทธปฏิมากรส่วนหนึ่ง อังคาดบิณฑบาตทานส่วนพระอรหันต์ ๘๐ องค์นั้น ให้คนนุ่งผ้าเหลืองนั้นนั่งหน้าพระอรหันต์เป็นผู้ฉันแทน ครั้นเสร็จการทานปัจจัย ให้อาลักษณนั่งตรงหน้าพระปฏิมากรทำภัตตานุโมทนาบอกอานิสงส์ผลทานแล้วให้ศีลแก่เจ้าอังวะ ครั้นสำเร็จการทำบุญแล้ว เจ้าอังวะให้เอาใบบัวและใบตองซึ่งปูลาดลานดินไล้มูลโคไว้นั้น เอาเข้าสุกใส่เรียงกันไปทุกใบบัว ตักเอาแกงถั่วเทศถั่วเขียวใส่ทุกกระทงเข้า เจ้าอังวะนั่งบริโภคเป็นประธาน เจ้าลูกเจ้าหลานกับทั้งข้าราชการพวกบริวารใหญ่น้อยก็พร้อมกันบริโภคด้วยเจ้าอังวะในเพลานั้น แล้วเจ้าอังวะประกาศห้ามไม่ให้สัปปุรุษทายกทำบุญให้ทานแก่พระภิกษุสงฆ์สามเณร ถ้าผู้ใดไม่ฟังจะเอาโทษ และว่า พระภิกษุรูปใดพอใจบวชอยู่ร่ำเรียน ก็ให้คิดอ่านทำไร่นาค้าขายหากินเอง ๚

 ณศักราช ๑๑๖๔ ปีจอนักษัตร จัตวาศก เจ้าอังวะให้เรียกเอาเงินแก่ราษฎร ๑๐ เรือนเอา ๓๓ บาท ๓ สลึง ๓ เฟื้อง ๓ ไพ ๓ กล่ำ ๓ กล่อมครั้งหนึ่ง ครั้นถ้วนสามปี ให้เอาอีกทีหนึ่ง เรือนละ ๓๓ บาท ๓ สลึง ๓ เฟื้อง ๓ ไพ ๓ กล่ำ ๓ กล่อม ๚