หน้า:ประชุมพงศาวดาร (ภาค ๑๗) - ๒๔๖๓.pdf/20

หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
๑๔

 ผู้ใดได้เปนขุนพัฒน์ คือ นายอากรบ่อนเบี้ยแขวงใด จะตั้งบ่อนเบี้ยในแขวงของตนมากน้อยสักกี่ตำบลก็ตั้งได้ ถ้าตั้งบ่อนน้อยแห่ง ก็ได้เงินน้อย แต่ถ้าตั้งมากเกินจำนวนคนแทง ก็เปลืองสัวหุ้ยเปล่า เพราะฉนั้น ขุนพัฒน์จึงต้องกะประมาณการที่จะตั้งบ่อนให้พอเหมาะแก่ผู้คนในแขวงนั้นจะไปแทงได้สดวกทั่วกัน จึงมักตั้งบ่อนเบี้ยที่ตลาดยี่สารอันเปนที่ประชุมชนในแขวงนั้น ถ้าริมแม่น้ำ ก็ใช้แพเปนบ่อน ถ้าตั้งห่างแม่น้ำขึ้นไป ก็ปลูกเปนโรง การปลูกสร้างบ่อน นัยว่าต้องทำด้วยทุนรอนของขุนพัฒน์เองทั้งสิ้น แต่ที่จริงนั้น ขุนพัฒน์หาต้องลงทุนรอนอย่างใดไม่ เพราะบ่อนเปนของตั้งประจำที่ประชุมชน ไม่ต้องย้ายตำแหน่งแห่งที่ไปไหน ใครเปนเจ้าของที่ก็ย่อมยินดีที่จะสร้างบ่อนให้ขุนพัฒน์เช่า ถึงขุนพัฒน์คน ๑ ออกแล้ว ขุนพัฒน์คนใหม่ก็ต้องขอเช่าบ่อนนั้นเล่นต่อไป แลยังมีประเพณีการอิกอย่าง ๑ คือ ขุนพัฒน์ไม่ได้เปนนายบ่อนในแขวงของตนทุกบ่อนทั่วไป เมื่อว่าอากรได้ไปแล้ว บ่อนไหนไม่ประสงค์จะทำเองก็ขายช่วงแก่ผู้อื่นต่อไป มีผู้ที่อยู่ประจำท้องที่ที่ตั้งบ่อนมักเปนผู้รับช่วงโดยมาก บางคนเปนนายบ่อนอยู่หลาย ๆ ปีก็มี ประโยชน์ของขุนพัฒน์ยังมีอิกอย่าง ๑ คือ ในท้องที่แขวงของตน ถ้าเจ้าของบ้านแห่งใดมีการงาน ดังเช่นงานโกนจุกบุตรหลานเปนต้น จะหาขุนพัฒน์ไปกำถั่วปั่นโปให้พวกพ้องเล่นเปนการครึกครื้นที่บ้านนั้นก็ได้ แม้ที่สุดถึงไม่มีใครหา ถ้าในท้อง