หน้า:ประชุมพงศาวดาร (ภาค ๑๗) - ๒๔๖๓.pdf/66

หน้านี้ยังไม่ได้พิสูจน์อักษร
๖๐

เอาอย่างกัน หลับหูหลับตาเอาลิ้นใส่โปออกไปให้นักเลงแทง โปปั่น จึนกลายเปนได้เสียโดยลักษณแลโชคไชยเหมือนกับโปกำแลถั่วใหญ่ ส่วนหวยนั้นขุนบานต้องเลือกตัวออก รู้ว่าจะออกตัวไหนก่อนทุกคราวถึงนักเลงจะเข้ามาจ้องสังเกตดูหน้าขุนบานไม่ได้อย่างวิธีแทงโปปั่นที่ว่ามา ก็ดี นักเลงยังมีวิธีคิดยิดต๊อก คือ วันไหนหวยออกตัวไหนจดไว้ทุก ๆ วัน เมื่อหลายวันเข้าตรวจพิเคราะห์ดูลำดับตัวหวยที่ออก จับวิถีจิตรของ ขุนบานวาชอบเลือกตัวหวยอย่างไร คือออกตัว ๑ แล้วมักเลือกข้ามลำดับ ไปกี่ตัว ฤๅมักเว้นเสียกี่วันจึงออกตัวเดิมอิกครั้ง ๑ ดังนี้เปนต้น เมื่อจับวิถีจิตรของขุนบานได้ก็อาจจะแทงถูกได้มากๆ เพราะหวยมีปะตูกินมากกว่าถั่วโปก็จริง แต่มีปะตูถูกมากกว่าเหมือนกัน เปนต้นว่าโดย จะแทงสัก ๑๐ ตัว ถ้าถูกตัว ๑ ก็ยังได้กำไรมาก พวกนักเลงจึงชอบเล่นกันมาก แลนักเลงที่เล่นหวยกับนักเลงที่เล่นเบี้ยก็ผิดกัน การเล่นเบี้ยต้องไปเล่นถึงบ่อน เพราะฉนั้นนักเลงที่เล่นเบี้ยมักจะเปนแต่คนชั้นต่ำ ส่วนนักเลงเล่นหวย อยู่ที่ไหน ๆ แม้ที่สุดอยู่ในมุ้งม่านบ้านช่องไม่ต้องให้ปรากฏตัวก็เล่นได้มักเปนคนชั้นสูงขึ้นมา จึงมีคนเจ้าความคิดที่จะคอยต่อสู้ขุนบานมากกว่าพวกที่จะต่อสู้ขุนพัฒน์หลายเท่า เปนนายอากรหวยจึงต้องระวังมีไหวพริบยิ่งกว่าการพนันอย่างอื่น ๆ ข้าพเจ้าได้เคยถามพวกออกหวยว่าเหตุไรจึงไม่หลับตาออกหวยเสียเหมือนอย่างพวกออกโปปั่นบ้าง เขาตอบว่าทำอย่างนั้นไม่ได้ ด้วยเงินเดิมพันที่ได้จาก พวกหลับตาแทง ฤๅแทงตามลัทธิที่เชื่อผีสาง น้อยกว่าเดิมพันที่ได้