หน้า:ประชุมพงศาวดาร (ภาค ๑๗) - ๒๔๖๓.pdf/69

หน้านี้ยังไม่ได้พิสูจน์อักษร
๖๓

มากกว่าผู้อื่น ก็ให้คนนั้นเปนแขวง แลเงินแป๊ะเจี๋ยะนั้นต้องส่งเปน เงินสดทั้งหมดตั้งแต่แรกได้เปนแขวง เพราะขุนบานอาไศรยเงินแป๊ะเจี๋ยะ นี้ที่มาส่งเงินล่วงน่าเข้าพระคลัง ถ้าหากจะให้ขุนบานผ่อนผันติดค้างบ้าง ก็ต้องเสียดอกเบี้ยให้ขุนบาน ส่วนแขวงหัวเมืองนั้น ขุนบานให้ช่วย เสียเงินอากร ใครรับเสียเงินอากรมากกว่าผู้อื่น ผู้นั้นก็ได้เปนแขวง นอกจากเสียแป๊ะเจี๋ยะแลเงินอากร ผู้เปนแขวงยังต้องหานายประกันแลผู้รับเรือนให้ขุนบานให้มั่นคงอย่าง ๑ แลต้องส่งเงินประกัน ไว้ด้วยอิกอย่าง ๑ เงินประกันแขวงกรุงเทพฯ นั้น ขุนบานเรียกมาก ฤๅน้อยตามที่เปนแขวงมีผลประโยชน์มากฤๅน้อย ไม่เสมอกันทุกแขวง แลยังต้องให้แขวงทำหนังสือสัญญาให้ขุนบาน ยอมรับประพฤติ ข้อ ๑ ว่าจะไม่ฉ้อฉนปิดบังเดิมพันอากรหวย ถ้าทำผิดข้อนี้ยอมให้ขุนบานริบเงินประกันแลถอดจากแขวงข้อ๒ รับจะเปิดเผยบาญชีแลกิจการทั้งปวง ให้ผู้ตรวจของขุนบานตรวจได้ทุกเมื่อ ถ้าทำผิดข้อนี้เมื่อใดยอมให้ตัดค่าน้ำอันเปนส่วนลดของแขวงทุกครั้ง ข้อ ๓ ยอมสัญญาว่าจะส่งโพยแล เงินเดิมพันให้ทันกำหนดของขุนบานทุกเมื่อ ถ้าทำผิดข้อนี้ ยอมให้ตัดเงินค่าน้ำทุกครั้งเหมือนกัน แลยังมีข้อสัญญาในการอย่างอื่นเบ็ดเตล็ดอิกหลายข้อ ยกมาว่าแต่ข้อสำคัญ ส่วนแขวงหัวเมืองนั้น ขุนบานให้ส่งเงินอากรล่วงน่า ๓ เดือน คิดเปนเงินอากรสำหรับเดือนต้น คือเดือน ๕ ฤๅเดือนเมษายนนั้นเดือน ๑ เปนเงินประกัน ๒ เดือน ต่อไปแขวงต้องส่งเงินอากรล่วงน่าเปนรายเดือน แต่ขึ้นเดือนที่ ๒ ไปเดือนละครั้ง จนถึง