หน้า:ประชุมพงศาวดาร (ภาค ๑๗) - ๒๔๖๓.pdf/71

หน้านี้ยังไม่ได้พิสูจน์อักษร
๖๕

มีคนแทงเงินเดิมพันมากแขวงก็เรียกค่าอนุญาตมาก ท้องที่เงินเดิมพันน้อยแขวงก็เรียกน้อยลงมา อัตราค่าอนุญาตที่แขวงเรียกจากเสมียนเขียนหวย เรียกเปนรายม้าที่ตั้งเขียน ม้า ๑ ตั้งแต่เดือนละ ๑๐ บาทลงมาจนเดือนละ ๔ บาท ตามท้องที่ดีฤๅเลวดังกล่าวแล้ว ผู้ที่ได้รับอนุญาตตั้งม้าเขียนหวย ต้องมีประกันสัญญาต่อแขวงคล้าย ๆ กับที่แขวงมีต่อขุนบานฉนั้น แลต้องรับดวงตราสำคัญไปจากแขวงดวง ๑ ในดวงตรามีอักษรบอกว่าเปนม้าที่เท่านั้น ๆ ในแขวงนั้น ๆ แขวงคิดเอาค่าตราจากผู้เขียนหวยดวงละ ๒๕ สตางค์ แต่เมื่อจะไม่เขียนหวยต่อไปต้องส่งตราคืนให้แขวง อิกอย่าง ๑ ต้องรับซื้อสมุดโผ ไปจากแขวงด้วย การที่กล่าวมานี้เหมือนกันทั้งเสมียนที่เขียนหวยแขวงในกรุงฯ แลแขวงหัวเมือง อนึ่งแขวงยังต้องมีผู้ช่วยอิกแขวงละหลายคน ที่สำคัญนั้น คือ ผู้ดูการต่างหูต่างตาแขวง เรียกว่าผู้จัดการคน ๑ ผู้รักษาเงินคน ๑ แลผู้ทำบาญชีคน ๑ ผู้ช่วยของแขวงในกรุงฯ แล้วแต่แขวงจะเลือกหา ขุนบานไม่เกี่ยวข้อง แต่ผู้ช่วยแขวงหัวเมืองขุนบานเห็นชอบด้วยจึงตั้งได้ เพราะขุนบานเปนผู้มีหุ้นส่วนอยู่ด้วย ขุนบานมักตั้งคนของตัวไปอยู่กำกับแขวงละคนเปนอย่างน้อย

ผลประโยชน์ที่แขวงหวยแลเสมียนเขียนหวยได้ในการอากรหวยนั้น แขวงในกรุงฯ มีผลประโยชน์ ๓ ทาง คือทางที่ ๑ ได้ค่าอนุญาตตั้งม้าเขียนหวย ถ้าในแขวงใดมีร้านเขียนหวยมากก็ได้เดือนละมาก ๆ