หน้า:ประชุมพงศาวดาร (ภาค ๑๗) - ๒๔๖๓.pdf/82

หน้านี้ยังไม่ได้พิสูจน์อักษร
๗๖

แขวงหัวเมืองนั้น เขียนแต่โผกับใบตอบ ไม่ต้องเขียนโพย เอาโผไปส่งแขวงแทนโพยทุกวัน แขวงเอาโผใส่กำปั่นลั่นกุญแจ ๓ ดอก คือของผู้แทนขุนบาน ๑ ของแขวง ๑ ของเสมียนบาญชีดอก ๑ รักษา ไว้จนรู้ว่าหวยออกใดแล้วจึงไขกำปั่น แขวง (ในกรุงฯ) รับโพยจากเสมียนแล้ว ตรวจจดบาญชีโพยแลบาญชีเงินไว้สำหรับแขวงส่วน ๑ แลทำใบนำ บอกนามแขวง บอกวันเดือน บอกจำนวนโพย แลบอกจำนวนเงินลงในใบนำนั้น แล้วคุมโพยกับใบนำสำหรับหวยโรงเช้ามาส่งยังโรงหวย ต้องส่งในระหว่าง แต่เวลาโรงหวยตีกลองสัญญาเรียกโพยจนตีกลองปุโหละบอกห้าม คือในระหว่างเวลาแต่ ๑๑ ล.ท. ไปจนราว ๒ ก.ท. วิธีแทงหวยหิ้งนั้น สำหรับพวกนักเลงขาใหญ่ที่จะแทงดักใจขุนบานด้วยจำนวนเงินมาก ๆ ขุนบานยอมให้พวกแทงหวยหิ้งเขียนโพยเอง และเอาโพยของตนไปส่งที่โรงหวยได้เหมือนอย่างกับเปนแขวง แต่ว่าต้องแทงคราว ๑ ไม่ต่ำกว่า ๒๒ บาทลงมา แลต้องทำโพยให้ถูกต้องแบบแผนอย่างโพยหวยสามัญ คือวิธีเขียนตัวอักษรแลกำหนดในโพย ใบ ๑ ไม่ได้แทงมากกกว่าตัวละบาท ๑ แลรวมเงินในโพยใบ ๑ ไม่ให้เกิน ๕ บาทเหล่านี้ ลักษณแทงหวยหิ้งกับแทงหวยสามัญที่ผิดกันเปนข้อสำคัญนั้น คือแทงหวยสามัญ เมื่อหวยโรงเช้าออกแล้ว ขุนบาน แก้โพยออกดูรู้ว่าผู้แทงๆ หวยตัวไหนมาก อาจจะคาดใจคนแทงว่า โรงค่ำคงจะแทงตัวไหน ๆ คิดยักย้ายตัวหวยโรงค่ำไปเสียให้ห่างได้