หน้า:ประชุมพงศาวดาร (ภาค ๑๘) - ๒๔๖๒.pdf/38

หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
๓๒
เยนทร์ อรรคมหาเสนาบดีกรุงสยาม มีถุงเข้มขาบพื้นเขียวหุ้ม๑ ถุงตั้งบนพานถมตะทองสำหรับถวายโปป ทูตานุทูตสยามทั้ง ๓ นายแต่งกายเต็มยศตามธรรมเนียมสยาม คือ นุ่งยกทองพื้นเขียว สวมเสื้อสักหลาดแดงขลิบทอง คาดเข็มขัดสายทองคำนอกเสื้อ เหน็บกระบี่ฝักแลด้ามทองคำ สวมพอกเกี้ยวกระจังทองคำสูงสามนิ้วปักดอกไม้ไหวเพ็ชร มีสายสร้อยทองคำผูกนอกรัดคาง เหมือนกันทั้ง ๓ นาย เดินเข้าไปในท้องพระโรงพร้อมด้วยบาดหลวงล่ามผู้กำกับไปจากกรุงสยามนั้น ฝ่ายโปปทรงพระนามว่า พระเจ้าอินนอเซนต์ที่ ๑๑ เอกอรรคมหาชนกาธิปตัยในกรุงโรม เสด็จออกประทับบนพระแท่นในท้องพระโรง มีมหาสังฆราชนั่งบนเก้าอี้ต่อน่าพระที่นั่งออกมาสองข้าง ๆ ละ ๔ รูป ราชทูตสยามเชิญพานพระราชสาส์นเดินตรงเข้าไปตั้งไว้บนโต๊ะตรงน่าพระแท่น แล้วเดินถอยหลังออกมาพักนั่งที่เฝ้า ขณะนั้น บาดหลวงล่ามผู้กำกับจึงเดินเข้าไปตรงพระแท่นในน่าท้องพระโรง ก็คุกเข่าลงถวายคำนับครั้งหนึ่ง แลลุกเดินเข้าไปถึงกลางท้องพระโรง ก็คุกเข่าลงถวายคำนับเปนครั้งที่ ๒ แล้วลุกเดินเข้าไปถึงน่าพระแท่น คุกเข่าลงถวายคำนับเปนครั้งที่ ๓ แล้วจึงจูบพระบาทยุคล ฝ่ายโปปจึงโปรดให้บาดหลวงล่ามนั้นยืนขึ้น ๆ แล้วจึงก้มศีศะถวายคำนับ แล้วก็เดินถอยหลังออกมาห่างจากน่าพระแท่น แต่พอถึงที่สุดท้ายเก้าอี้มหาสังฆราชทั้ง ๘ ท่านนั้น จึงถวายคำนับอิกครั้งหนึ่ง แล้วทูลเบิกทูตานุทูตสยามเข้ามาเฝ้า กล่าวด้วยพระราชดำริห์ของสมเด็จพระนารายน์มหาราชเจ้าทรงพระปรารภจะใคร่เจริญทางพระราชไมตรีต่อ