หน้า:ประชุมพงศาวดาร (ภาค ๑๙) - ๒๔๖๓.pdf/29

หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
๒๒

ลงมาประมาณ ๔๕ ไมล์ เช้าวันรุ่งขึ้นจึงเลื่อนขึ้นไปที่ตำบลหัววาน พบเรือหลวง (ฝรั่งเศส) สารถิ์ และเรือเฟรลอง เรือหลวงสยามอิมเพรกนะบล (ยงยศอโยชฌิยา) เรือสยามสับปอรเตอร์ (สยามูปสดัมภ์) เรือเจ้าพญา (ลำนี้ไม่ใช่เรือหลวง เปนเรือค้าขายของพระยาพิณสณฑ์ เจ้าสัวยิ้ม) เรือพระที่นั่ง (อรรคราชวรเดช) เรือปืนขนาดเล็ก และเรืออื่น ๆ อิกหลายลำ เรือหลวง (อังกฤษ) สเตลไลต์ในบังคับบัญชาของนายนาวาเอก เอดีย์ และเรือกราสหอปเปอร์ในบังคับบัญชาของนายเรือเอก ฟิลปอต ก็ได้มาถึงในเช้ารุ่งขึ้น นายนาวาเอก เอดีย์ ซึ่งเดินทางจะไปเมืองฮ่องกง ได้รับคำชักชวนของท่านเจ้าเมือง จึงแปรทางมา ประสงค์ให้มีเรือรบอังกฤษมาอยู่ด้วยในโอกาศนั้น เพื่อชักธงแสดงความยินดียิงสลุตตอบ

สถานที่ซึ่งสร้างไว้เปนที่พักอาศรัยเปนที่อยู่ริมหาดตอนหนึ่งซึ่งเปนที่ป่าไม้อยู่ก่อน มาแผ้วโก่นโค่นสร้างในคราวนี้ แล้วปลูกพลับพลาแลทำเนียบเปนอันมากสำหรับข้าราชการต่าง ๆ ในราชสำนักแลแขกเมืองชาวยุโรปพักอาศรัย สมเด็จพระเจ้าแผ่นดินประทับในค่ายหลวง ตำหนักที่ประทับทำด้วยไม้ชั่วคราว เปนตำหนัก ๓ ชั้น ด้วยธรรมเนียมไทย ผู้มีศักดิ์ต่ำจะอยู่ในที่สูงกว่าไม่ได้ หรือในส่วนพระเจ้าแผ่นดิน จะอยู่ในที่เสมอกันกับใคร ๆ ก็ไม่ได้ ทำเนียบแห่งอื่นปลูกเปนเรือนชั้นเดียว แต่ยกพื้นในประดนสูงพ้นจากพื้นดินสัก ๓ ฟิตทุกหลัง ทำเนียบเหล่านี้สร้างด้วยไม้ไผ่ผ่าซีก