หน้า:ประชุมพงศาวดาร (ภาค ๑๙) - ๒๔๖๓.pdf/45

หน้านี้ยังไม่ได้พิสูจน์อักษร
๓๘

ก็กำหนดได้ชัดขึ้น ( ข ) มีอาการเปลี่ยนแปลงก็แต่น้อย เวลา ๑๑ นาฬิกา ๓๓ นาที ( ก ) สูญหายไป ( ข ) ลุถึงความเต็มเปี่ยมเปนที่สุด ก็เริ่มลดหายไปในรวางระยะเวลานั้น ( ข ) ถ้าจะเปลี่ยนไปบ้าง ก็ได้ทวีขึ้นเล็กน้อย เวลา ๑๑ นาฬิกา ๓๔ นาที ( ข ) ยังคงลดถอยลงอิก และสังเกตดูเหมือนว่าเข้าไปติดฝังอยู่กับดวงจันทร์ อันเปนรูปที่สังเกตไม่เห็นในเวลา ( ก ) หายไป ( ข )ยังอยู่อย่างเดิม ตรง ( ค ) รัศมีที่เป็นลำพุ่งออกมาซึ่งคู่กับ ( ก ) อย่างชัด ตรงที่เส้นสูนส์ได้แตกออกคล้าย ( ก ) มาก แต่ความยาวออกจะน้อยและเปนสีจาง แท้จริงขาดความสว่างเรืองความลึกแลความแปรสี ซึ่งมีปรากฎอยู่ที่ ( ก ) เวลา ๑๑ นาฬิกา ๓๕ นาที ( ข ) ยังคงลดถอยลงอิก และที่เข้าไปฝังอยู่ในดวงจันทร์ก็ออกลึกลง ( ข ) ลดลงแต่มีส่วนน้อย ส่วน ( ค ) ดูเหมือนจะทวีขึ้นแต่ว่าน้อยนัก และไม่ถึงขนาดอย่างที่สุดของ ( ก ) สักเวลาเดียว สีของ ( ข ) ดูไม่แปร คล้าย ( ค ) มากกว่า ( ก ) ตลอดไป รวางนี้ นายอัลบาสเตอร์ รั้งกงสุลประจำกรุงสยามก็ได้เฝ้าตรวจดูดวงอาทิตย์ด้วยกล้องดูไกล ๒ ตา ผลที่ได้สังเกตไว้ เมื่อเทียบกันดูเหมือนจะตรงกันในข้อใหญ่ที่ท่านเจ้าเมืองได้สังเกตไว้ แต่นายอัลบาสเตอร์ คิดว่ารัศมีที่เปนลำพุ่งสออกมาที่ ( ข ) ไม่สว่างเรืองเท่ากับ ( ก ) เมื่อเห็นในตอนแรก มีสีเหลืองประจักษ์แจ้งมาก นายอัลบาสเตอร์ เห็นว่าริมขอบปราฎกชัดเด่น