๏เมื่อนั้นพระมหานาคเสนเจ้า จึงตั้งสัตยาธิษฐานขออาราธนาเชิญ พระบรมธาตุเจ้า ๗ พระองค์นั้น ให้เสด็จเข้าไปในพระองค์พระแก้วเจ้านั้นแล
๏เมื่อนั้นพระบรมธาตุเจ้า๗พระองค์นั้น จึงพระองค์หนึ่งก็เสด็จเข้าในพระโมฬี พระองค์หนึ่งก็เสด็จเข้าไปในพระภักตร์ พระองค์หนึ่งก็เสด็จเข้าในพระหัตถ์กำขวา พระองค์หนึ่งก็เสด็จเข้าในพระหัตถ์กำซ้าย พระองค์หนึ่งเสด็จเข้าในเข่าข้างขวา พระองค์หนึ่งก็เสด็จเข้าในเข่าข้างซ้าย พระองค์หนึ่งก็เสด็จเข้าในพระชงฆ์แห่งพระแก้วเจ้าสิ้นทั้ง ๗ พระองค์นั้นแล้ว
๏เมื่อนั้นพระแก้วเจ้าก็ทำปาฏิหาริย์ยกขึ้นยังฝ่าพระบาทกำขวาดุจดังจะเสด็จลง จากแท่นบัลลังก์กาญจนนั้น
๏เมื่อนั้นพระอินทร์พระพรหมเทพยดา แลคนทั้งปวง เห็นเปนน่าอัศจรรย์นักหนา ก็ร้องป่าวกันให้ส้องสาธุการเปนอันมากแล้วก็ถวายบูชาด้วยแก้วแลเงินคำ ผ้าผ่อนเครื่องอาบอบแก่พระแก้วเจ้าเปนอันมากนั้นแล
๏เมื่อนั้นพระมหานาคเสนเจ้าครั้นท่านได้เห็นอัศจรรย์อันนั้นแล้วท่านจึงเล็ง อรหัตมรรคญาณไปแต่ข้างน่านั้น จึงเห็นว่าพระแก้วเจ้านี้จะไม่ได้อยู่ในเมืองปาตลีบุตรเปนมั่นคง ท่านจึงทำนายไว้ว่า ดูกรท่านทั้งปวง ซึ่งพระแก้วเจ้าของเราองค์นี้ มิใช่จะอยู่เมืองปาตลีบุตรที่นี้เปนมั่นคงเลย ท่านยังจะเสด็จไปโปรดสัตวในประเทศ ๕ แห่ง คือลังกาทวีปเปนกัมโพชวิไสยแห่ง ๑ ศรีอยุทธยาวิไสยแห่ง ๑ โยนก วิไสยแห่ง ๑ สุวรรณภูมิวิไสยแห่ง ๑ ปมหลวิไสยแห่ง ๑ เข้ากันเปน ๕ แห่งนี้แล ครั้นพระมหานาคเสนเจ้าทำนายไว้ดั่งนี้แล้ว ซึ่งคนทั้งปวงอันได้นมัสการบูชาพระแก้วก็ตั้งอยู่ชั่วแดนอายุแห่งตน ครั้นจุติ