หน้า:ประชุมพงศาวดาร (ภาค ๑) - ๒๔๕๗.pdf/122

หน้านี้ยังไม่ได้พิสูจน์อักษร
๑๐๑
พระแก้วอยู่กรุงศรีอยุทธยา

ไปในทิศทั้ง ๔ ทั้ง ๘ ฝ่ายคนทั้งปวงอันอยู่ในทิศทั้ง ๔ ทั้ง ๘ นั้นก็นำมา ยังสิ่งของแก้วแหวนแลเงินคำ แลธูปเทียนแลดอกไม้อันมีกลิ่นสุคนธรศต่าง ๆ มาพร้อมกันแล้ว ก็ฉลองบูชาพระแก้วเจ้านั้นสิ้นกาลอันนานได้เดือนหนึ่งแล้ว แล้วก็เชิญแห่เอาพระแก้วเจ้าขึ้นประดิษฐานไว้ในพระศรีรัตนศาสดาราม อันประดับประดาด้วยแก้วแลเงินคำเปนอันงามบริสุทธิ์เปนนักหนาแล้ว จึงพระเจ้าอาทิตยราชมหากระษัตริย์ พระองค์ก็ทรงพระปีติโสมนัศในน้ำพระไทยหาที่สุดมิได้ พระองค์ก็ปฏิบัติรักษาบูชาพระแก้วเจ้านั้นเปนนิตย์มิได้ขาด ซึ่งว่าคนทั้งปวงอันอยู่ในพระมหานครก็ดี อันอยู่นอกพระนครทั้ง ๔ ทิศทั้ง ๘ ทิศก็ดี ก็เข้ามาถวายนมัสการบูชาพระแก้วเจ้าทุกวันมิได้ขาดนั้นแล ด้วยเดชะอานุภาพพระแก้วเจ้านั้น ซึ่งพระพุทธสาสนาของพระบรมพุทธครูเจ้า ก็รุ่งเรืองงามมากนักในกรุงเทพมหานครศรีอยุทธยา หาที่จะประมาณมิได้ซึ่งพระแก้วเจ้านั้น ก็ตั้งอยู่ในกรุงเทพมหานครศรีอยุทธยาสิ้นกาลอันนานมากนักหนา สืบมาได้หลายชั้นพระมหากระษัตริย์เจ้าแล้ว อยู่มาข้างน่าแต่นั้นจึงเจ้าพระยายากำแพงเพ็ชร ก็ลงมาทูลขอพระแก้วเจ้าขึ้นไปไว้ในเมืองกำแพงเพ็ชร ท่านก็ปฏิบัติรักษาบูชาพระแก้วเจ้าต่อไป มินานเท่าใดท่านก็ได้ราชบุตรคนหนึ่ง ครั้นราชบุตรคนนั้นเจริญใหญ่ขึ้นแล้ว ท่านก็ตั้งขึ้นให้ไปเปนเจ้าเมืองลโว้ ครั้นราชบุตรคนนั้นได้เปนเจ้าเมืองลโว้แล้ว ก็รฦกนึกถึงพระแก้วเจ้าเปนที่สุด ด้วยท่านมีน้ำใจอยากได้พระแก้วเจ้าเมื้อไว้ปฏิบัติรักษาบูชา ท่านจึงมาสู่เมืองกำแพงเพ็ชรแล้ว จึงขึ้นกราบทูลพระมารดาว่า ข้าแต่พระราชมารดา