หน้า:ประชุมพงศาวดาร (ภาค ๑) - ๒๔๕๗.pdf/138

หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
๑๑๗
แผ่นดินสมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ ๑

 ศักราช ๗๔๘ ขาลศก (พ.ศ. ๑๙๒๙) เสด็จไปเอาเมืองเชียงใหม่ แลให้เข้าปล้นเมืองนครลำภางมิได้ จึงแต่งหนังสือให้เข้าไปแก่หมื่นนครเจ้าเมืองนครลำภาง ๆ นั้นจึงออกมาถวายบังคม แลทัพหลวงเสด็จกลับคืน

 ศักราชได้ ๗๕๐ มโรงศก (พ.ศ. ๑๙๓๑) เสด็จไปเอาเมืองชากังราวเล่า ครั้งนั้น สมเด็จพระบรมราชาธิราชเจ้าทรงพระประชวรหนัก แลเสด็จกลับคืน ครั้นเถิงกลางทาง สมเด็จพระบรมราชาเจ้านฤพานแลจึงเจ้าทองลันพระราชกุมารท่านได้เสวยราชสมบัดดิพระนครศรีอยุทธยาได้ ๗ วัน จึงสมเด็จพระราเมศวรยกพลมาแต่เมืองลพบุรีขึ้นเสวยราชสมบัดดิพระนครศรีอยุทธยา แลท่านจึงให้พิฆาฏเจ้าทองลันเสีย.

 ศักราช ๗๕๗ กุญศก (พ.ศ. ๑๙๓๘) สมเด็จพระราเมศวรเจ้านฤพาน จึงพระราชกุมารท่านเจ้าพญารามเสวยราชสมบัดดิ.

 ศักราช ๗๗๑ (พ.ศ. ๑๙๕๒) สมเด็จพญารามเจ้ามีความพิโรธแก่เจ้าเสนาบดี แลท่านให้กุมเจ้าเสนาบดี ๆ หนีรอด แลข้ามไปอยู่ฟากปท่าคูจามนั้น แลเจ้าเสนาบดีจึงให้ไปเชิญสมเด็จพระอินทราชาเจ้ามาแต่เมืองสุพรรณบุรีว่า จะยกเข้ามาเอาพระนครศรีอยุทธยาถวาย ครั้นแลสมเด็จพระอินทราชาเจ้าเสด็จมาถึงไส้ จึงเจ้าเสนาบดียกพลเข้าไปปล้นเอาพระนครศรีอยุทธยาได้ จึงเชิญสมเด็จพระอินทราชาเจ้าขึ้นเสวยราชสมบัดดิ แลท่านจึงให้สมเด็จพญารามเจ้าไปกินเมืองปท่าคูจาม.

 ศักราช ๗๘๑ กุญศก (พ.ศ. ๑๙๖๒) มีข่าวมาว่า พระมหาธรรมราชาธิราชเจ้านฤพาน แลเมืองเหนือทั้งปวงเปนจลาจล แลจึง