๏ ศักราช ๘๒๐ ขาลศก (พ.ศ. ๒๐๐๑) ครั้งนั้น ให้บุณพระสาสนาบริบูรณ แลหล่อรูปพระโพธิสัตว ๕๐๐ ชาติ.
๏ ศักราช ๘๒๒ มโรงศก (พ.ศ. ๒๐๐๓) เล่นการมหรศพฉลองพระ แลพระราชทานแก่สงฆ์แลพราหมณ์แลพรรณิพกทั้งปวง ครั้งนั้น พญาซเลียงคิดเปนขบถ พาเอาครัวทั้งปวงไปออกแต่มหาราช.
๏ ศักราช ๘๒๓ มเสงศก (พ.ศ. ๒๐๐๔) พญาซเลียงนำมหาราชมาจะเอาเมืองพิศณุโลก เข้าปล้นเมืองเปนสามารถ มิได้เมือง แลจึงยกทัพเปรอไปเอาเมืองกำแพงเพ็ชร แลเข้าปล้นเมืองเถิงเจ็ดวัน มิได้เมือง แลมหาราชก็เลิกทัพคืนไปเชียงใหม่.
๏ ศักราช ๘๒๔ มเมียศก (พ.ศ. ๒๐๐๕) เมืองนครไทยพาเอาครัวอพยพหนีไปน่าน แลให้พระกลาโหมไปตาม ได้คืนมา แล้วพระกลาโหมยกพลไปเอาเมืองสุโขทัย ได้เมืองคืนดุจเก่า.
๏ ศักราช ๘๒๕ มแมศก (พ.ศ. ๒๐๐๖) สมเด็จพระบรมไตรโลกเจ้าไปเสวยราชสมบัดดิเมืองพิศณุโลก แลตรัสให้พระเจ้าแผ่นดินเสวยราชสมบัดดิพระนครศรีอยุทธยา ทรงพระนาม สมเด็จพระบรมราชา ครั้งนั้น มหาราชท้าวลูกยกพลมาเอาเมืองสุโขทัย จึงสมเด็จพระบรมไตรโลกเจ้า แลสมเด็จพระอินทราชาเจ้า เสด็จไปกันเมือง แลสมเด็จพระบรมราชาเจ้าตีทัพพญาเถียรแตก แลทัพท่านมาปะทัพหมื่นนคร แลท่านได้ชนช้างด้วยหมื่นนคร แลครั้งนั้นเปนโกลาหลใหญ่ แลข้าเศิกลาวทั้งสี่ช้างเข้ารุมเอาช้างพระที่นั่งช้างเดียวนั้น ครั้งนั้น สมเด็จพระอินทราชาเจ้าต้องเปนณพระภักตร์ แลทัพมหาราชนั้นเลิกกลับคืนไป.