๏ ศักราช ๙๓๗ กุญศก (พ.ศ. ๒๑๑๘) พญาลแวกยกทัพเรือมายังพระนครศรีอยุทธยา ในวัน ๗ ๑๐ ฯ ๑ ค่ำนั้น ชาวเมืองลแวกตั้งทัพเรือตำบลพแนงเชิง แลได้รบพุ่งกัน ครั้งนั้น เศิกลแวกต้านมิได้ เลิกทัพกลับไป แลจับเอาคนณเมืองปากใต้ไปครั้งนั้นมาก ในปีนั้น น้ำณกรุงศรีอยุทธยาน้อย.
๏ ศักราช ๙๔๐ ขาลศก (พ.ศ. ๒๑๒๑) พญาลแวกแต่งทัพให้มาเอาเมืองเพ็ชรบุรี มิได้เมือง แลชาวลแวกนั้นกลับไป ครั้งนั้น พญาจีนจันตุหนีมาแต่เมืองลแวกมาสู่พระราชสมภาร ครั้นอยู่มา พญาจีนจันตุก็หนีกลับคืนไปเมือง.
๏ ศักราช ๙๔๒ มโรงศก (พ.ศ. ๒๑๒๓) รื้อกำแพงกรุงพระนครออกไปตั้งเถิงริมแม่น้ำ.
๏ ศักราช ๙๔๓ มเสงศก (พ.ศ. ๒๑๒๔) ญาณประเชียรเรียนสาตราคมแลคิดเปนขบถ คนทั้งปวงสมัคเข้าด้วยมาก แลยกมาจากเมืองลพบุรี แลยืนช้างอยู่ตำบลหัวตรี แลบรเทศคนหนึ่งอยู่ในเมืองนั้นยิงปืนออกไปต้องญาณประเชียรตายกับฅอช้าง แลในปีนั้น มีหนังสือมาแต่เมืองหงษาว่า ปีมเสง ตรีนิศกนี้ อธิกมาศมิได้ ฝ่ายกรุงพระนครศรีอยุทธยานี้มีอธิกมาศ อนึ่ง ในวัน ๗ ๙ฯ ๒ ค่ำ รู้ข่าวมาว่า พระเจ้าหงษานฤพาน อนึ่ง ในเดือน ๓ นั้น พญาลแวกยกพลมาเอาเมืองเพ็ชรบุรี ครั้งนั้น เสียเมืองเพ็ชรบุรีแก่พญาลแวก.
๏ ศักราช ๙๔๔ มเมียศก (พ.ศ. ๒๑๒๕) พญาลแวกแต่งทัพให้มาจับคนปลายด่านตวันออก.