ไชยานุภาพ ซึ่งทรงแลได้ชนด้วยมหาอุปราชาแลมีไชยชำนะนั้น พระราชทานให้ชื่อ เจ้าพญาปราบหงษา.
๏ศักราช ๙๕๕ มเสงศก (พ.ศ. ๒๑๓๖) วัน ๒ ๕ฯ ๑๐ ค่ำ เสด็จเถลิงพระมหาปราสาท ครั้งนั้น ทรงพระโกรธแก่มอญ ให้เอามอญเผาเสียประมาณ ๑๐๐ ณวัน ๖ ๑๐ ฯ ๒ ค่ำ เพลารุ่งแล้ว ๓ นาฬิกา ๖ บาด เสด็จพยุหบาตราไปเอาเมืองลแวก แลตั้งทัพไชยตำบลบางขวด เสด็จไปครั้งนั้น ได้ตัวพญาศรีสุพรรณในวัน ๑ ๑ฯ ๔ ค่ำนั้น.
๏ศักราช ๙๕๖ มเมียศก (พ.ศ. ๒๑๓๗) ยกทัพไปเมืองสโตง.
๏ศักราช ๙๕๗ มแมศก (พ.ศ. ๒๑๓๘) วัน ๑ ๓ฯ ๑ ค่ำ เพลารุ่งแล้ว ๓ นาฬิกา ๙ บาด เสด็จพยุหบาตราไปเมืองหงษา ครั้งก่อน ฟันไม้ข่มนามตำบลหล่มพลี ตั้งทัพไชยตำบลม่วงหวาน เถิงวัน ๒ ๑๓ฯ ๔ ค่ำ เพลาเที่ยงคืนแล้ว เข้าปล้นหงษามิได้ ทัพหลวงเสด็จกลับคืนมา.
๏ศักราช ๙๕๘ วอกศก (พ.ศ. ๒๑๓๙) วัน ๓ ๔ฯ ๖ ค่ำ ลาวหนี ขุนจ่าเมืองรบลาวตำบลคะเคียนด้วน แลณวัน ๕ ๖ฯ ๓ ค่ำ ฝนตกหนักหนาสามวันดุจฤดูฝน.
๏ศักราช ๙๖๑ กุญศก (พ.ศ. ๒๑๔๒) วัน ๕ ๑๑ ฯ ๑๑ ค่ำ เพลารุ่งแล้ว ๒ นาฬิกา ๘ บาด เสด็จหยุหบาตราไปเมืองตองอู ฟันไม้ข่มนามตำบลหล่มพลี ตั้งทัพไชยตำบลวัดตาล แลในเดือน ๑๑ นั้น สงกรานต์ พระเสาร์แต่ราษีกันย์ไปราษีดุลย์ ครั้นเถิงวัน ๔ ๑๐ ฯ ๔ ค่ำ เสด็จพระราชดำเนินเถิงเมืองตองอู แลทัพหลวงเข้าตั้งใกล้เมืองตองอูประมาณ ๓๐ เส้น