หน้า:ประชุมพงศาวดาร (ภาค ๑) - ๒๔๕๗.pdf/177

หน้านี้ยังไม่ได้พิสูจน์อักษร
๑๕๖
เรื่องเมืองศุโขไทย

อันกอบด้วยศีลาจริยานุวัตรทรงพระไตรปิฎกจบ มีศิลปสาตรรอบรู้กระบิลตำหรับฉบับโบราณาจารย์ครบทุกประการอันประเสริฐ ซึ่งสถิตย์อยู่นครจันทรเขตร ในประเทศเกาะลังกาทวีปสิงหฬภาษา มาสู่กรุงศรีสัชชนาไลย พระองค์จึงมีรับสั่งให้ศิลปีนายช่าง ปลูกกุฎีวิหารระหว่างป่ามะม่วงอันมีในทิศประจิมเมืองศุโขไทย นายช่างได้ทำที่ราบคาบปราบภูมิภาคเสมอแล้วเททรายเกลี่ยตามที่ตามทาง ราวกับพระวิศณุกรรมมานฤมิตรก็ปานกัน เมื่อได้สมเด็จพระสังฆราชผู้เปนมหาเถรกับพระภิกษุสงฆ์หลายองค์มาแต่ลังกาทวีปนั้น พระองค์ก็รับสั่งใช้ให้อำมาตย์มุขมนตรีผู้ใหญ่ผู้น้อย แลราชตระกูลทั้งหลายแต่ล้วนเปนชาย นำเอาดอกไม้ธูปเทียนหมากเข้าตอกธงต่าง ๆ ไปรับ ทำสักการบูชาตลอดชลมารคสถลมารค ตั้งแต่เมืองท่าเรือทเลมาทางบกแต่เมืองเชียงทอง เมืองจันทร เมืองพราน เมืองวาน ตลอดถึงเมืองศุโขไทย ครั้งนั้นพระองค์รับสั่งให้อำมาตย์นักการ กวาดพระราชมรรคาสถลมารค ตกแต่งพระทวารทิศบูรพไปจนพระทวารทิศประจิมต่อป่ามะม่วง ซึ่งปลูกกุฎีวิหารมโหฬารเกษมไว้รับพระสังฆราชนั้น ครั้งนั้นพระองค์ทรงบริจาคพระราชทรัพย์จะนับมิได้ ประดับประดาราชมรรคาเปนที่เกษมสำราญไพบูลย์เสร็จแล้ว จึงอาราธนาพระมหาสามิสังฆราชจำพรรษาสิ้นไตรมาศ ครั้นออกพรรษาแล้วพระองค์ทรงตั้ง มหะกรรมการฉลองพระพุทธรูปสัมฤทธิ์ที่หล่อเท่ากับองค์นั้น ทรงประดิษฐานไว้กลางเมืองศุโขไทยโดยบุรพทิศด้านพระมหาธาตุนั้น พระองค์ทรงฟังพระธรรมเทศนาทุกวัน ตั้งแต่วันขึ้นค่ำ ๑ ถึง ๑๕ ค่ำ คิด