หน้า:ประชุมพงศาวดาร (ภาค ๑) - ๒๔๕๗.pdf/179

หน้านี้ยังไม่ได้พิสูจน์อักษร
๑๕๘
เรื่องเมืองศุโขไทย

ฉะนั้น จึงเสด็จบรรพชาเปนภิกษุในระหว่างพัทธสิมานั้น ขณะนั้นนาคราชหนึ่งอยู่โดยบุรพทิศเมืองศุโขไทยนั้น ยกพังพานขึ้นสูงพ้นคน แปรตาไปเฉภาะป่ามะม่วงนั้น เห็นรอยผุดพลุ่งกลางอากาศลงต่อแผ่นดิน อนึ่งเวลานั้นได้ยินเสียงระฆังดนตรีดุริยางค์ไพเราะใกล้โสดของชนเปนอันมาก จะพรรณานับมิได้ แต่บรรดามหา ชนที่มาสโมสรสันนิบาตในสถานที่นั้น ย่อมเห็นการอัศจรรย์ประจักษ์ทุกคน เหตุด้วยเสด็จออกทรงบำเพ็ญพระบารมี เมื่อทำอัษฎางคิกศีล เมื่อฤดูคิมหันต์ไม่มีฝน ด้วยอำนาจศีลและความอธิษฐานพระบารมีด้วย ปถวีก็ประวัติกัมปนาทหวาดหวั่นไหว เทพธารา วิรุณหกก็ตกลงมาในฤดูแล้ว แสดงอัศจรรย์สรรเสริญในการสร้างพระบารมี นักปราชญ์ราชบัณฑิตย์จึงจดหมายโดยวิจิตรจาฤกลงไว้ให้ถ้วนถี่ ในเสาศิลานี้เพื่อจะให้เปนพระเกียรติยศปรากฎต่อไปภายภาคหน้า ลำดับนั้นบรรดามนตรีอำมาตย์โหราราชบัณฑิตย์วิทยาจารย์ เศรฐีมหาศาลราชประยุรวงษานุวงษ์จำนงจิตรพร้อมกันประชุมเชิญพระองค์ให้ลาผนวช สมเด็จพระบรมบพิตรตรัสให้ประชุมนุมพระสงฆ์ เถรานุเถรทั้งปวง ปฤกษาพร้อมกับพระราชประยุรวงษานุวงษ์ แลเสวกามาตย์ ในสันถาคารสถานชื่อสันทติศาลา เห็นพร้อมยอมแล้ว พระองค์ทรงพระกรุณาแก่สรรพสัตว์บรรพชิตเพื่อจะให้รู้ธรรมเนียมลาผนวช แล้วพระองค์ก็ออกพระโอฐเปนพระคาถาเปล่งพระวาจาลาผนวช ผลัดผ้ากาสาวพัตรทั้งปวงแล้ว พระองค์ก็ทรงเครื่องราชกกุธภัณฑ์อนันตราโชประโภคสำหรับกระษัตร เสวกามาตย์ราชกระวี