แม่แบบ {{หัวสลับ 2}} ถูกยกเลิกแล้ว กรุณาใช้แม่แบบ {{หัวสลับ}} ทดแทน |
ได้ ๕ ปี พระชัณษาได้ ๓๕ ปี มีพระราชบุตรกับสมเด็จพระอรรค มเหษี ทรงพระนามสมเด็จพระบรมราชา พระองค์บรมบพิตรทรงราชย์มา ลุศักราช ๘๘๘ ศกจอนักษัตรได้ ๑๑ ปี พระชัณษาได้ ๔๑ ปี พระองค์จึงยกทัพไปรบกับเจ้ากัน ๆ ตายกลางศึกแล้ว พระองค์กลับคืนมาเมืองโพธิสัตว บรรดาไพร่พลเมืองใหญ่น้อย ก็ยอมเข้ากับพระองค์ทั้งสิ้น พระองค์จึงให้ตั้งชื่อค่ายที่พระองค์เคยสถิตย์อยู่ ให้เรียกว่าค่ายบรรทายมีไชย แล้วพระองค์สร้างพระพุทธรูปอัฐรัศองค์หนึ่งอยู่ณเมืองอมราบดีรันทบูร ลุศักราช ๘๙๐ ศกชวดนักษัตรได้ ๑๒ ปี พระชัณษาได้ ๔๓ ปี จึงพระองค์ออกจากค่ายบรรทายมีไชย มาสถิตย์อยู่ณเมืองลงแวก พระองค์ให้ก่อค่ายด้วยศิลาข้างล่างแล้วพูนดินบนศิลาเสร็จแล้ว สร้างพระพุทธรูปอัฐรัศ ๔ องค์ องค์หนึ่งทำด้วยไม้จริง พระบาทพระพุทธรูปนั้นทำด้วยศิลา ผินพระปฤษฎางค์เข้าหากัน ผันพระภักตร์ออกทั้ง ๔ ทิศ แล้วสร้างพระวิหารมีมุขเด็ดทั้ง ๔ ด้าน มียอดอยู่กลาง ฝาผนังประดับกระจกปิดทอง แล้วให้สร้างพระพุทธไสยศน์นิพพานด้วยศิลา แลพระพุทธรูปองค์ใหญ่ ๆ ทำด้วยศิลาไว้ที่บนเนินเขาพระราชทรัพย์ พระองค์ทรงราชย์ ลุศักราช ๙๐๒ ศกชวดนักษัตรได้ ๒๕ ปี พระชัณษาได้ ๕๕ ปี พระเจ้ากรุงศรีอยุทธยาจึงยกทัพมาถึงพระนครหลวงในปีชวดนั้น พระองค์ยกทัพไปถึงพระนครหลวงรบชะนะพระเจ้ากรุงศรีอยุทธยาหนีไป พระเจ้าจันทราชาจับได้ชเลยไทยเปนอันมาก แล้วเสด็จกลับเข้ามาครองราชสมบัติ ลุศักราช ๙๑๕ ปี ศกฉลูนักษัตร บุษยมาสาพฤหัศบดี