ความซึ่งฟ้องด้วยเรื่องยิงเมืองตรังกานูนั้น เสนาบดีกรุงลอนดอนตัดสินว่า เจ้าเมืองสิงคโปร์บังคับให้เรือรบไปยิงเมืองตรังกานูนั้นผิด ควรคอเวอนแมนต์ไทยคิดเอาเงินค่าไปรับสุลต่านมหะมุดแลเบี้ยเลี้ยง สุลต่านมหะมุดกับบ่าวไพร่ทั้งหมด ความจบอยู่แต่เพียงนี้ ครั้งนั้น คอเวอนแมนต์อังกฤษเรียกเจ้าเมืองสิงคโปร์กลับ แล้วเปลี่ยนเจ้าเมืองมาเปนใหม่
ครั้นณปีฉลู สัปตศก จุลศักราช ๑๒๒๗ ปี แผ่นดินพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระยาตรังกานูมีใบบอกมาว่า รายามุดา ถึงแก่กรรม พระยาตรังกานูขอรับพระราชทานตนกูปะสา บุตรรายามุดา เปนรายามุดา จึงโปรดเกล้าฯ ตั้งให้ตนกูปะสา บุตรรายามุดา มะมุด เปนพระไชเยนทร์ฤทธิรงค์ รายามุดา ตามพระยาตรังกานูขอเข้ามา พระราชทานเสื้อเข้มขาบ ๑ ผ้าโพกขลิบทอง ๑ ผ้าปูมเขมร ๑ แต่เครื่องยศครอบทอง คนโททอง กะโถนทอง สัประทนคันหนึ่ง ให้เรียกเอากับพระยาตรังกานู ด้วยรายามุดาถึงแก่กรรมแล้ว เครื่องยศนั้นอยู่กับพระยาตรังกานู ตั้งจีนเต็กหลี พี่น้องพระศรีบุญเลี้ยง เปนหลวงอภัยพงษ์ภักดี ผู้ช่วยราชการ เมื่อตั้งนั้น โปรดเกล้าฯ ให้พระยาราชวังสรรค์ จางวางอาษาจาม หลวงโกชาอิศหาก เชิญนามสัญญาบัตรแลเสื้อผ้าออกไปด้วยเรือกลไฟรบชื่อ ยงยศอโยชฌิยา พระราชทานให้พระไชเยนทร์ฤทธิรงค์ รายามุดา หลวงอภัยพงษ์ภักดี ผู้ช่วยราชการ ณเมืองตรังกานู