หน้า:ประชุมพงศาวดาร (ภาค ๒) - ๒๔๕๗ b.pdf/16

หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว

ข้าหลวงผู้จำทูลพระราชโองการนั้นจึงเชิญพระราชโองการ แลตราพระครุธพ่าห์ พระสุพรรณบัตร เสด็จเข้าในพระวิหาร นั่งเหนือเตียงทองลาดผ้าขาวตั้งเบญจานั้น แล้วชักม่านสองไขปิดไว้ จึงให้ผู้จำทูลนั้นประนมมืออยู่ณที่นั้น แลน่าเบญจานั้นให้ปูพรมลาดผ้าแต่ตราหนึ่งสำหรับผู้จะยืนอ่านพระราชโองการแลอ่านพระสุพรรณบัตร แล้วให้เจ้าพระยานครนุ่งผ้าสมปักขาวชายกรวย ห่มเสื้อขาว ใส่พอกเกี้ยวดอกไม้ไหว ขึ้นคานหาม ให้หลวงขุนหมื่นตามพนักงานแห่เข้ามาถึงประตูพระวิหาร ให้นั่งน่าเบญจาออกมาประมาณ ๔ ศอก ให้มีพานขันหมากถวายบังคม แลให้พระหลวงขุนหมื่นกรมการแลเมืองขึ้นทั้งปวงนั่งโดยอันดับเปน ๒ แถว ให้ปูเช็ดหน้า เรียงเข้าตอกดอกไม้หมากพลูธูปเทียน แล้วจึงให้ประโคมแตรสังข์ฆ้องกลอง แล้วนายแวงผู้จำทูลพระราชโองการนั้นจึงชักม่าน แลชาววังกรมพระคลังผู้จำทูลนั้นนั่งถัดแวงออกมาตามซ้ายขวา แลให้เจ้าพระยานครแลพระหลวงขุนหมื่นกรมการทั้งปวงกราบถวายบังคมสามลาแล้วสงบอยู่ก่อน ครั้นสุดเสียงกลองแลแตรสังข์แล้ว จึงให้เจ้าพระยานครพระหลวงขุนหมื่นกรมการทั้งปวงถวายบังคมให้พร้อมกัน แล้วผู้จำทูลพระราชโองการแลอาลักษณ์ซึ่งนุ่งขาวนั้นกราบถวายบังคมสามลา แล้วจึงให้นายแวงผู้จำทูลนั้นไขย่นพานย่นเจียดถุงกล่องออก แล้วเชิญพระราชโองการส่งให้อาลักษณ์ยืนบนผ้าแดงแลพรมนั้นอ่านพระราชโองการมอบเมืองนครให้แก่พระยาไชยาธิเบศร์เปนเจ้าพระยานคร ครั้นจบพระราชโองการแล้ว ให้หลวงศรีราชสงครามรามภักดี ปลัด แลกรมการทั้งปวง