พระยาบดินทรเดชา ขอให้กราบทูลพระกรุณาคิดจะไม่อยู่กรุงเทพฯ ว่า ตัวชรา เปนเสนาบดีขึ้น เจ้าชีวิตรเสด็จพระราชดำเนินไปถึงไหน ตัวก็ต้องตามไปถึงนั่น ก็จะมีความบำบาก จึงทำเรื่องราวกราบทูลพระกรุณาว่า จะขอออกมาอยู่เมืองนอกตามเดิม จะจัดแจงทางรับส่งพระราชทรัพย์เมืองพังงา เมืองถลาง เมืองตะกั่วทุ่ง จะขนไปขึ้นเขาศกก็กันดารเชี่ยวแก่งเปนหลายแห่ง พระราชทรัทย์ก็สูญหายเปนอันตรายเสียหลายครั้งมาแล้ว เห็นว่า ทางบก รยะป่าเดินมาช้าแต่สองคืนไม่สู้กันดาร ถึงพนมล่องตลอดลงไปถึงพุนพินตลอดออกไปถึงภุมเรียงที่รับส่งพระราชทรัพย์ไม่สู้กันดาร ขอพระราชทานช้างเกณฑ์บันทุกเมืองนคร ๑๐ ช้าง เมืองไชยา ๑๐ ช้าง รวมช้าง ๒๐ ช้าง ให้หลวงพิพิธคชกรรม์เปนนายกองคุมช้างคอยรับส่งพระราชทรัพย์ พระราชทานช้างแลที่ปากพนม ปากลาว ได้มาตามเรื่องราวเจ้าพระยาสุรินทราชาให้กราบทูลพระกรุณา มีแจ้งอยู่ในท้องตราพระคชสีห์นั้นแล้ว ปากพนม ให้ขุนทิพ ขุนเพชร ขุนศรีสงคราม สามคน ตั้งอยู่ ฝ่ายมรุ่ยปากลาว ตั้งให้หลวงฤทธิสงครามเปนมิแก แลที่มรุ่ยถึงปากพนม ให้กับเจ้าพระยาสุรินทราชา ฝ่ายเจ้าพระยาสุรินทราชากลับออกมาถึงบ้านเมืองแล้ว จึงตั้งให้ขุนทิพเปนหลวงรามพิไชยอยู่ที่ปากพนม ให้หลวงรามพิไชยตัดทางตั้งแต่ปากพนมขึ้นมาถึงเมืองพังงา ให้หลวงฤทธิสงครามตั้งเกลี้ยกล่อมผู้คนอยู่ที่มรุ่ยปากลาวให้คอยรับส่งพระราชทรัพย์ลงไป ให้หลวงรามพิไชยคอยรับอยู่ที่ท่าพนม แล้วเจ้าพระยาสุรินทราชาให้ตั้งด่านที่ตีนเขานางหงษ์ด่านหนึ่ง ด่านปากคาน ด่านทุ่งคา
หน้า:ประชุมพงศาวดาร (ภาค ๒) - ๒๔๕๗ b.pdf/71
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
๖๑