หน้า:ประชุมพงศาวดาร (ภาค ๓) - ๒๔๗๑.pdf/116

หน้านี้ยังไม่ได้พิสูจน์อักษร
๑๐๕

ครั้นณปีมแมตรีศก เจ้าวรญาณรังษีป่วย เจ้าวรญาณรังษีว่าราชการเมืองนครลำปางมาได้ ๑๖ ปี ถึงณวันเดือน ๗ แรม ๕ ค่ำ ปีมแมตรีศกศักราช ๑๒๓๓ ปี เจ้าวรญาณรังษีก็ถึงแก่พิราไลย เจ้าไชยลังกาพิศาลเปนพระยาลำพูนได้ ๘ ปี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ เลื่อนขึ้นเปนเจ้าลำพูนได้ ๑๗ ปี รวมแต่ได้ครองเมืองลำพูนไชยมาได้ ๑๕ ปี ก็ถึงแก่พิราไลยในปีมแมตรีศกนั้น โปรดเกล้า ฯ ให้พระศรีเสนาขึ้นไปปลงศพเจ้าวรญาณรังษี เจ้านครลำปาง ฝ่ายกงสุลเยเนราลอังกฤษ มีหนังสือแจ้งความมายังท่านเสนาบดีผู้ว่าราชการต่างประเทศ ว่าเมื่อพระเจ้ากาวิโลรสสุริยวงษ์ยังไม่ถึงแก่พิราไลย ให้เจ้านายบุตรหลานแสนท้าวพระยาลาวเมืองเชียงใหม่ ไปเก็บริบเอาไม้ขอนสักแลทรัพย์สิ่งของช้างม้าโคกระบือ ฆ่าฟันพวกพม่าต้องซู่ ซึ่งอยู่ในบังคับอังกฤษเปนหลายเรื่องหลายราย ท่านเสนาบดีได้นำความขึ้นน้อมเกล้าถวายคำนับกราบบังคมทูลพระกรุณาทราบฝ่าลอองธุลีพระบาท จึงโปรดเกล้า ฯ ให้พระยาจ่าแสนบดีศรีบริบาล เจ้ากรมมหาดไทยฝ่ายพลัมภัง กับพระสุริยภักดี เจ้ากรมพระตำรวจสนมทหารซ้าย ขึ้นไปชำระความพม่าต้องซู่ซึ่งฟ้องหาเจ้านายแสนท้าวพระยาลาวเมืองเชียงใหม่ พระยาจ่าแสนบดี พระสุริยภักดี ขึ้นไปถึงเมืองเชียงใหม่ ได้ชำระความพม่าต้องซู่ เจ้านายแสนท้าวพระยาลาวแล้วไปบ้าง แต่ที่ตัดสินฝ่ายโจทย์ฝ่ายจำเลยไม่ยอมกันมีอยู่หลายเรื่อง พระยาจ่าแสนบดี พระสุริยภักดี กำหนดให้โจทย์จำเลยลงมาชำระว่ากล่าวกันณกรุงเทพ ฯ 

๑๔