หน้า:ประชุมพงศาวดาร (ภาค ๕๒) - ๒๔๗๒ b.pdf/32

หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
๒๕

กรมหลวงเทเวศร์ฯ ตรัสว่า ขอให้เจ้าพระยาศรีสุริยวงศว่าราชการแผ่นดินไปกว่าสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอฯ จะทรงผนวชพระ[1] เจ้าพระยาศรีสุริยวงศถามความข้อนี้แก่ที่ประชุม ก็ให้อนุมัติเห็นสมควรพร้อมกัน เจ้าพระยาศรีสุริยวงศจึงว่า ส่วนตัวท่านเองนั้นจะรับสนองพระเดชพระคุณโดยเต็มสติปัญญา แต่ในเรื่องการพระราชพิธีต่าง ๆ ท่านไม่สู้เข้าใจ ขอให้เจ้าฟ้าฯ กรมขุนบำราบปรปักษ์ ช่วยในส่วนการพระราชนิเวศด้วยอิกพระองค์หนึ่ง ที่ประชุมก็อนุมัติเห็นชอบด้วย.

เมื่อเสร็จการปรึกษาตอนถวายราชสมบัติแก่สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าฯ กรมขุนพินิตประชานาถ แล้ว เจ้าพระยาศรีสุริยวงศจึงกล่าวขึ้นอิกว่า แผ่นดินที่ล่วงแล้วแต่ก่อน ๆ มา มีพระมหากษัตริย์แล้ว ก็ต้องมีมหาอุปราชฝ่ายหน้า เป็นเยี่ยงอย่างมาทุก ๆ แผ่นดิน ครั้งนี้ ที่ประชุมจะเห็นควรมีพระมหาอุปราชฝ่ายหน้าด้วยหรือไม่.

กรมหลวงเทเวศร์วัชรินทรเสด็จลุกคุกพระชงฆ์ประสานพระหัดถ์ตรัสขึ้นอิกว่า พระบาทสมเด็จฯ พระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และพระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้มีพระเดชพระคุณมาแก่พระบรมวงศานุวงศและข้าทูลละอองธุลีพระบาทเป็นอันมาก ควรจะคิดถึงพระเดชพระคุณของพระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว ยกกรมหมื่นบวรวิชัยชาญ พระโอรสพระองค์ใหญ่ ขึ้นเป็นกรมพระราชวังบวรสถานมงคล สนอง


  1. คือ เมื่อพระชันษาครบ ๒๐ ในปีระกา พ.ศ. ๒๔๑๖ เปนเวลาที่จะต้องมีผู้สำเร็จราชการแผ่นดินอยู่ ๕ ปี.