หน้า:ประชุมพงศาวดาร (ภาค ๕๒) - ๒๔๘๒.pdf/30

หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
๒๔

เมื่อกรมหลวงเทเวศร์ฯ ตรัสดังนี้แล้ว เจ้าพระยาศรีสุริยวงศจึงถามที่ประชุมเรียงพระองค์เจ้านายและเรียงตัวข้าราชการผู้ใหญ่ แต่ส่วนพระ ถามฉะเพาะกรมหมื่นบวรรังษีฯ พระองค์เดียว ถามตั้งแต่กรมหลวงวงศาฯ เป็นต้นมา ทุกพระองค์ทุกท่านประสานพระหัดถ์และประสานมือยกขึ้นรับว่า "สมควร" เมื่อเห็นชอบพร้อมกันแล้ว เจ้าพระยาศรีสุริยวงศจึงอาราธนาพระสงฆ์สวยชยันโตและถวายอติเรก.[1]

เมื่อประชุมเห็นพร้อมกันว่า ควรถวายราชสมบัติแก่สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าฯ กรมขุนพินิตประชานาถ แล้ว เจ้าพระยาศรีสุริยวงศจึงกล่าวถามต่อไปในที่ประชุมว่า เมื่อพระบาทสมเด็จฯ พระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระประชวรอยู่นั้น ท่านได้กราบบังคมทูลฯ ให้ทรงทราบว่า ปรึกษากันจะถวายราชสมบัติแก่สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าฯ กรมขุนพินิตประชานาถ พระบาทสมเด็จฯ พระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รับสั่งว่า ทรงพระวิตกอยู่ ด้วยสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอฯ พระชันษายังทรงพระเยาว์ จะไม่ทรงสามารถว่าราชการแผ่นดินให้ร่มเย็นเป็นสุขแก่พระราชวงศานุวงศข้าทูลละอองธุลีพระบาทสมณพราหมณาจารย์อาณาประชาราษฎรได้ดังสมควร พระกระแสที่ทรงพระปริวิตกเช่นนี้ จะคิดอ่านกันอย่างไร.


  1. ธรรมเนียมถวายอติเรกนั้น พระบาทสมเด็จฯ พระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้ทรงบัญญัติไว้ว่า ควรจะถวายต่อเมื่อสมเด็จพระเจ้าแผ่นดินได้ราชาภิเษกแล้ว ยังเป็นประเพณีมาจนทุกวันนี้ การที่ถวายอติเรกในที่ประชุมครั้งนั้น เห็นจะเป็นด้วยเจ้าพระยาศรีสุริยวงศไม่ทราบพระราชนิยม และกรมหมื่นบวรรังษีฯ ก็ไม่กล้าทรงทัดทาน.