หน้า:ประชุมพงศาวดาร (ภาค ๕) - ๒๔๖๐ reorganised.pdf/33

หน้านี้ยังไม่ได้พิสูจน์อักษร
๒๐

เพราะเปนการลำบาก เจ้าพนักงานจงมี ราชสาสนไปให้ประเทศทั้งหลายทราบทั่วกัน[1]

เมื่อมีราชสาสนไปห้ามแล้ว ประเทศทั้งหลายก็ยังมาถวายของเสมอ ในปีนั้นสี่จื๊อ (บุตรขุนนางผู้ใหญ่หรือบุตรเจ้าประเทศราชซึ่งจะได้รับทายาทของบิดาจีนเรียกว่าสี่จื๊อ) ของซูมั่นบังอ๋องชื่อเจี่ยวหลกควานอิน[2] ให้ราชทูตถือหนังสือมาถวายฮองไถ่จี๊อ (พระราชโอรส) แลมีสิ่งของในพื้นประเทศมาถวาย พระเจ้าไถ่โจ๊วฮองเต้รับสั่งให้เจ้าพนักงานนำราชทูตเข้าเฝ้าตงกง (พระมเหษี) แล้ว ก็ให้เลี้ยงดูราชทูต กับประทานสิ่งของตอบแทนให้ราชทูตนำกลับไปให้สี่จื๊อ

แผ่นดินหงบู๊ปีที่ ๘ อิดเบ๊า (ตรงปีเถาะจุลศักราช ๗๓๗) ราชทูตเสี้ยมหลอฮกก๊กนำสิ่งของในพื้นประเทศมาถวาย แลสี่จื๊อ (บุตรซึ่งจะได้รับสมบัติ) ของมี่นถ้ายอ๋ององค์เก่า (องค์เก่านั้นคือ


  1. จะเห็นได้ในความตอนนี้ ว่าจีนจะตีขลุมเอาเมืองต่างประเทศที่เปนไมตรีให้แลเห็นว่าเปนประเทศราชขึ้นเมืองจีน ที่ว่าไปถวายของทุกปีนั้น คือถึงฤดูมรสุมที่เรือเมืองต่างประเทศไปค้าขายเมืองจีน ก็ส่งราชบรรณการไปถวายพระเจ้ากรุงจีนปีละครั้ง ๑ เพื่อประโยชน์แก่การค้าขาย จีนเห็นไม่ตรงกับแบบส่งส่วย จึงแก้กำหนดให้ถวาย ๓ ปี ครั้ง ๑ มิใช่เพราะความกรุณา ดังจะแลเห็นผลได้ในความต่อไปข้างน่าว่าประเทศเหล่านั้นก็ยังถวายปีละครั้งเสมอ
  2. ที่จีนเรียก ซูมั่นบังอ๋อง คือพระเจ้าสุพรรณบุรีเปนแน่ ที่เรียก เจียวหลกควานอิน นั้น ก็คือเจ้านครอินทร์ตรงกับในพระราชพงษาวดาร พระราชพงษาวดารว่าเจ้านครอินทร์เปนหลานเธอของสมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ ๑ ได้ความในจดหมายเหตุจีนแจ่มแจ้งว่า สมเด็จพระบรมราชาธิราชให้น้องยาเธอพระองค์ ๑ ครองเมืองสุพรรณบุรีที่เปนพระบิดาของเจ้านครอินทร์