หน้า:ประชุมพงศาวดาร (ภาค ๖๓) - ๒๔๗๙.pdf/55

หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
9
 

เกียริตยศอยู่ และน่าจะทรงเห็นว่า ในการที่เชื่อหรือแกล้งทรงเชื่อนั้น ก็คงเป็นแต่พระเกียรติยศไปอย่างเดียว เป็นทางที่จะเพิ่มพระบารมีให้แก่กล้าขึ้น

๖. ในข้อซึ่งทรงหลงว่า มีบุญและคนนับถือมาก ครั้นพระอาทิตยวงศ์ได้พวก ๒๐๐ คนยกมา พระเจ้าปราสาททองก็มิได้ต่อสู้ หนีด้วยความขลาดนั้น ข้าพระพุทธเจ้าเห็นด้วยเกล้าฯ ว่า ในเวลานั้น คงจะทรงวางพระทัยว่า จะไม่มีผู้ใดกล้าคิดทำอันตราย จึงมิได้จัดการป้องกันรักษาให้กวดขัน พระอาทิตยวงศ์จึงยกเข้าไปในวังได้โดยไม่ทันรู้พระองค์ ก็ควรจะเสด็จหลบหลีกออกเสียจากวังซึ่งใกล้ต่อข้าศึก เพื่อไปรวบรวมกำลังต่อสู้ และการที่เสด็จนั้น ก็มิได้ไปไกลจากวังเพียงใด เสด็จลงประทับอยู่ในเรือพระที่นั่งลอยลำอยู่ที่หน้าพระฉนวนเท่านั้น จะถือเอาเป็นขลาดแท้ทีเดียวยังไม่ได้ ถ้าตกพระทัยใหญ่ ก็คงเสด็จเปิดไปจนถึงเกาะมหาพราหมณ์

๗. พระราชทานเพลิงพระเจ้าลูกเธอ ได้เนื้อในพระอุทร เชื่อว่า ต้องคุณ ข้าพระพุทธเจ้าเห็นด้วยเกล้าฯ ว่า ในเวลานั้น เป็นสมัยเล่นเวทมนตร์คาถา และตำรับตำราทำคุณไสยก็คงมีอยู่เป็นอันมาก ก็เมื่อได้พบสิ่งที่ต้องในตำรา ก็น่าจะเชื่ออยู่ โดยเหตุว่า ในชั้นต้น ได้เชื่อและนับถือเวทมนตร์คาถาเสียแล้ว และทั้งเวทมนตร์ในเวลานั้นก็ขลังให้ผลแก่ผู้ถือ กล่าวคือ พระเจ้าทรงธรรมกับพระเจ้าปราสาททองนั้นเองเป็นผู้ที่ถือเวทมนตร์จัด และเห็นกันว่า ได้ราชสมบัติเพราะเวทมนตร์