หน้า:ประชุมพงศาวดาร (ภาค ๖๔) - ๒๔๗๙.pdf/434

หน้านี้ยังไม่ได้พิสูจน์อักษร
389
 

แตกออกในหลุมก็หาถูกผู้คนไม่ แลทรงพระกรุณาสั่งให้เอาว่าวคุลาใหญ่ขึ้นไปชัก เอาหม้อใส่ดินตกลงให้ใหม้เมือง และหย่อนว่าวให้ หม้อดินตกลงในเมืองหลายครั้ง ก็หาไหม้เมืองไม่ แต่ทัพไปล้อมเมืองนครราชสีมาถึง ๓ ปี เทศกาลฝน ไพร่พลช้างม้าโคกระบือล้มตายเป็นอันมาก แลฝ่ายในเมืองนครราชสีมาขาดสะเบียง อ้ายคิดมิชอบกับพวก ๒๘ คนหนีออก หาได้ตัวไม่ ฝ่ายนายทัพนายกองทั้งปวง ซึ่งขึ้นไปล้อมเมืองนครราชสีมานั้น ได้กิตติศัพท์ขึ้นไปว่า พระบาทสมเด็จบรมนาถบรมบพิตร พระพุทธอยู่หัวเสด็จสวรรคตแล้ว ก็ชวนกันเลิกทัพกลับมา ถึงแขวงสรรคบุรีจึงรู้ว่าหาเสด็จสวรรคตไม่ ยังเสด็จอยู่ ต่างคนต่างก็แตกกันไปข้างแขวงนครนายกบ้าง ทางเมืองปราจิน บ้าง ทางเมืองลพบุรีบ้าง จึงทรงพระกรุณาสั่งให้กะเกณฑ์ไปทั่ว สะกัดจับตัวนายกองทุกทาง ข้าหลวงซึ่งติดตามไปท่าสะกัดนั้น จับ ได้พระยาพระหลวงขุนหมื่นนายทัพนายกองมาสิ้นแล้ว ทรงพระกรุณา ให้ลงพระราชอาญาขับเฆี่ยนไป ตีริบราชบาทว์ ทะเวนบกทะเวนเรือแล้วประหารชิวิตเสียเป็นอันมาก แลณปีกุรศักราช ๑๐๕๗ (พ.ศ. ๒๒๓๘) กรุงศรีสัตนาคนหุต มีศุภอักษรให้แสนท้าวลาวมีชื่อ ถือมาถึงอัครมหาเสนาธิบดี ได้เอาลักษณะอักษรกราบบังคมทูลพระกรุณา พระบาทสมเด็จบรมนาถบรมบพิตรพระพุทธเจ้าอยู่หัว ให้ทราบฝ่าละอองธุลีพระบาท ฝ่ายอัครมหาเสนาธิบดีจึงเอาลักษณะอักษรกราบบังคมทูลพระกรุณา เป็นใจความว่า