หน้า:ประชุมพงศาวดาร (ภาค ๖) - ๒๔๖๐.pdf/20

หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
๑๓

ราชธิดาสมเด็จพระมหาจักรพรรดิ์ ซึ่งเปนอรรคชายาของพระมหาธรรมราชา กับพระเอกาทศรถ ราชบุตร์องค์น้อย พาลงมาไว้กรุงศรีอยุทธยา เวลานั้น สมเด็จพระนเรศวรอยู่กับพระมหาธรรมราชาที่เมืองหงษาวดี พระเจ้าหงษาวดีเห็นไทยแตกกันขึ้นก็จริง เปนที ก็ยกกองทัพเข้ามาตีกรุงศรีอยุทธยาเมื่อปีมะโรง จุลศักราช ๙๓๐ พุทธศักราช ๒๑๑๑ จัดเปนกองทัพ ๗ ทัพ จำนวนพล (พม่าว่า) ห้าแสน พระมหาธรรมราชาคุมกองทัพไทยฝ่ายเหนือลงมาช่วยพระเจ้าหงษาวดีด้วยทัพ ๑ ทัพพม่ายกเข้ามาคราวนี้เดินทางด้านแม่สอดเหมือนคราวก่อน เข้ามาได้สดวกด้วยไม่ต้องรบพุ่งตามระยะทาง ฝ่ายข้างกรุงศรีอยุทธยาตั้งใจต่อสู้ด้วยเอาพระนครเปนที่มั่นอย่างเดียว การที่ต่อสู้ครั้งนี้ ได้ความตามหนังสือพระราชพงษาวดารว่า ผู้คนข้างฝ่ายไทยแตกหนีเข้าป่าเสียมาก เกณฑ์ระดมคนไม่ได้มากเหมือนคราวก่อน การบังคับบัญชาของพระมหินทร์ก็ไม่สิทธิ์ขาด สมเด็จพระมหาจักรพรรดิ์ทรงผนวชอยู่ ต้องเชิญเสด็จลาผนวชออกมาทรงบัญชาการ แต่มีพระยารามรณรงค์ ผู้ว่าราชการเมืองกำแพงเพ็ชร์คนเก่าคน ๑ ซึ่งไม่เข้ากับพระมหาธรรมราชา มาทำราชการอยู่ในกรุงฯ เปนคนเข้มแข็ง จัดการป้องกันพระนคร ในเวลานั้น ลำน้ำทางด้านตวันออกตั้งแต่วัดมณฑปลงมาจนวัดพระเจ้าพนัญเชิงยังเปนคลองคูพระนคร กำแพงพระนครข้างด้านตวันออกนั้นก็ยังอยู่ลึกเข้าไปมาก ด้านนี้ไม่มีแม่น้ำใหญ่