หน้า:ประชุมพงศาวดาร (ภาค ๖) - ๒๔๖๐.pdf/25

หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
๑๘

พระนเรศวร องค์ ๑ ให้คุมทหารเข้ากองทัพยกไปตีเมืองคัง จึงเปนการทำศึกประชันกันในเจ้านาย ๓ องค์นี้ พเอินเมื่อพระมหาอุปราชากับพระสังขทัตเข้าตีเมือง ตีไม่ได้ ต้องถอยกลับออกมาทั้ง ๒ คราว ด้วยเมืองคังนั้นตั้งอยู่บนเขา ตียาก ครั้นถึงคราวสมเด็จพระนเรศวรเข้าตี ทำอุบายให้ชาวเมืองสำคัญว่า จะยกขึ้นตีทาง ๑ แต่ที่จริงยกขึ้นตีทางอื่น สมเด็จพระนเรศวรตีได้เมืองคัง จึงเปนเหตุให้พระเจ้าหงษาวดีเห็นความสามารถในการสงครามของสมเด็จพระนเรศวรแลเกิดระแวงว่าอาจจะเปนสัตรูมาแต่ครั้งนั้น

ตั้งแต่พระเจ้าหงษาวดีไชยสิงห์ขึ้นครองราชสมบัติ เจ้านายประเทศราชไม่อ่อนน้อมยอมอยู่ในอำนาจสนิท ไม่เหมือนเมื่อครั้งพระเจ้าหงษาวดีบุเรงนอง พระเจ้าหงษาวดีไชยสิงห์จึงเกิดระแวงพวกเจ้านายประเทศราชทั้งที่เปนญาติวงษ์ตลอดมาจนเมืองไทย ส่วนเจ้าประเทศราชญาติวงษ์ ในชั้นแรก พระเจ้าหงษาวดีจะทำอย่างไร ไม่ปรากฎ แต่เมืองไทยนั้น พระเจ้าหงษาวดีไชยสิงห์ได้ครองราชสมบัติแล้วไม่ช้า ก็เกณฑ์กำลังไทยใหญ่ให้ทำทางตั้งแต่เมืองเมาะตมะเข้ามาเมืองกำแพงเพ็ชร์ ตั้งยุ้งฉางตามระยะทางตลอดเข้ามา แล้วให้นันทสูกับราชสังครำคุมทหารอิกกอง ๑ เข้ามาตั้งรวบรวมสะเบียงอาหารไว้ที่เมืองกำแพงเพ็ชร การที่ทำอย่างนี้ในเวลาไม่มีเหตุอย่างใด ส่อให้เห็นว่า พระเจ้าหงษาวดีสงไสยว่า ไทยจะต้องแขงเมือง เห็นว่า กำลังทหารพม่าที่อยู่กำกับในพื้นเมืองไม่พอ จึงส่งกำลังเข้ามาเพิ่มเติม แลให้ทำทางเตรียมสะเบียง