หน้า:ประชุมพงศาวดาร (ภาค ๖) - ๒๔๖๐.pdf/38

หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
๓๑

ต้องถอยทัพกลับออกไป พวกหัวเมืองประเทศราชที่ห่างไกลก็กระด้างกระเดื่อง เจ้าเมืองคังตั้งแขงเมืองขึ้นอิก พระเจ้าหงษาวดีปฤกษาเสนาบดีเห็นพร้อมกันว่า เปนเพราะรบไทยไม่ชนะ เมืองอื่นจึงกำเริบ จะต้องพยายามเอาไชยชนะไทยให้จงได้ พระเจ้าหงษาวดีจึงให้จัดกองทัพเปน ๒ กอง ๆ หนึ่งให้ราชบุตร์องค์ ๑ ซึ่งได้เปนพระเจ้าแปร ยกไปตีเมืองคัง อิกกอง ๑ ให้พระมหาอุปราชายกมากับเจ้าเมืองพสิม เจ้าเมืองภุกาม เข้ามาตีกรุงศรีอยุทธยา รายการรบคราวนี้มีปรากฎในหนังสือพระราชพงษาวดาร ฉบับหลวงประเสริฐ แต่ตอนปลายพระราชพงษาวดารฉบับอื่นไม่กล่าวถึงทีเดียว แต่ในพงษาวดารพม่าว่ารายการไขว้ไปเสียกับคราวชนช้าง ข้าพเจ้าจะกล่าวรายการตามที่ได้ความจากพงษาวดารพม่าอย่างที่เห็นว่า ถูกต้อง คือ เมื่อสมเด็จพระนเรศวรได้ข่าวศึก ก็เสด็จยกกองทัพหลวงออกไปต่อสู้ข้าศึกที่เมืองสุพรรณบุรี พระมหาอุปราชาเห็นว่า กำลังไทยที่ยกไปน้อยกว่า จึงหาที่มั่นตั้งรับเปนน่ากระดาน หมายว่า เมื่อไทยยกเข้ารบ จะตีโอบล้อมกองทัพไทยให้ได้ ข้างสมเด็จพระนเรศวรทรงสังเกตเห็นกระบวนข้าศึกตั้ง รู้ท่วงทีข้าศึก ไม่ยกเข้าตีตรงน่าอย่างข้าศึกคาด เห็นว่า ข้างปีกขวาข้าศึกมีกำลังอ่อน ยกกองทัพไทยเข้าทุ่มเทตีปีกขวาฝ่ายเดียว ปีกขวาแตกแล้ว ตีกองกลางแตกอิกกอง ๑ แต่ปีกซ้ายได้ไชยภูมิ์ที่ตั้งมั่น สมเด็จพระนเรศวรไม่เข้าตี พม่าเสียช้างม้ารี้พลเปนอันมาก กองทัพพม่ารีบหนี ไทยติดตามจับตัวเจ้าเมืองภุกาม แลเจ้าเมืองพสิม แม่