หน้า:ประชุมพงศาวดาร (ภาค ๖) - ๒๔๖๐.pdf/82

หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
๗๕

ให้สุรินทรจอข่องเปนนายทัพยกไปตีค่ายบางระจันเปนครั้งที่ ๔ พวกบ้านบางระจันก็จัดกันเปนกองทัพออกสู้รบ ด้วยรบพุ่งมาจนชำนาญ ใช้แต่อาวุธสั้นฆ่าฟันพม่าล้มตายเปนอันมาก สุรินทจอข่อง นายทัพ ก็ถูกอาวุธตายในที่รบ แต่เนเมียวสีหบดีจัดกองทัพยกไปตีค่ายบางระจันรวมเบ็ตเสร็จถึง ๗ ครั้ง พวกบางระจันก็ตีพม่าแตกยับเยินมาทุกที จนแม่ทัพพม่าหวาดหวั่นขยั้นอยู่ ด้วยจะหาผู้อาศาไปรบพวกบางระจันไม่ได้

ฝ่ายข้างในกรุง เมื่อได้ทราบว่า พวกราษฎรบ้านบางระจันควบคุมกันเปนกองทัพตั้งต่อสู้มีไชยชนะพม่าหลายคราว ก็มีใจ จึงเกณฑ์คนหัวเมืองที่เข้ามาอยู่รักษาพระนครสมทบกันจัดเปนกองทัพจำนวนพล ๑๐,๐๐๐ ให้พระยาพระคลังเปนแม่ทัพ กับข้าราชการผู้ใหญ่ผู้น้อยอิกหลายคน ยกออกไปตีค่ายเนเมียวสีหบดีที่ตั้งอยู่ที่ปากน้ำประสบ วันแรก รบกันไม่แพ้ไม่ชนะ กองทัพไทยถอยมา อิก ๒–๓ วัน รับสั่งให้ยกตีค่ายพม่าที่ปากน้ำประสบอิก คราวหลังนี้ ในหนังสือพระราชพงษาดารกล่าวว่า พวกชาวเมืองทั้งพระแลคฤหัสถ์ที่ไม่เคยเห็นเขารบกันมาแต่ก่อน ทำนองจะมั่นใจด้วยเห็นว่า กองทัพไทยไม่แพ้พม่ามาคราว ๑ พากันตามกองทัพออกไปดูรบพม่าเปนอันมาก พม่าทำกลอุบายให้กองทัพไทยเห็นว่า เหมือนหนึ่งจะแตกหนี กองทัพไทยไล่ถลำเข้าไป พม่าตีโอบหลัง กองทัพไทยแตกยับเยิน พวกแม่ทัพนายกองพากันหนีพม่า มีแต่พระยาตาก (สิน) คือ พระเจ้ากรุงธนบุรี ที่รอ