หน้า:ประชุมพงศาวดาร (ภาค ๗๑) - ๒๔๘๑.pdf/112

หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
๙๘

ศักราช ๑๘๓๓ นักพระองค์จันท์สมเด็จพระอุทัยราชาธิราชเจ้าเมืองเขมรนั้นถึงพิราลัย ไม่มีบุตรชาย มีแต่บุตรหญิง ญวนมาตั้งให้เป็นเจ้าเมืองเขมร แล้วก็ยึดเอาเมืองเขมรเป็นของญวนไปเสียฝ่ายเดียว ญวนแต่งคนไปรักษาเมืองเขมรทุกบ้านทุกเมือง เก็บเอาส่วยสาอากรเป็นของญวนหมด ตั้งแต่นั้นมา บรรณาการเมืองเขมรที่เคยส่งแก่กรุงเทพมหานครทุกปีก็ไม่มีเลย ฝ่ายเจ้าเขมรผู้น้องชายสาม ๓ ของนักพระองค์จันท์เจ้าเมืองเขมรที่ถึงพิราลัยนั้น นักพระองค์สงวนถึงพิราลัยเสียแต่ก่อนในกรุงเทพมหานครนี้องค์หนึ่ง ยังเหลืออยู่ ๒ องค์ คือ นักพระองค์อิ่ม นักพระองค์ด้วง แต่นักพระองค์อิ่มหนีออกไปเมืองเขมรเมื่อปีจอ สัมฤทธิศก จุลศักราช ๑๒๐๐ (พ.ศ. ๒๓๘๑) ปลายปี มีคฤศตศักราช ๑๘๓๙ ญวนก็โกรธ จับตัวนักพระองค์อิ่มส่งไปเมืองเว้ แล้วก็กวาดครอบครัวอพยพเจ้านายฝ่ายเขมรส่งไปเมืองเว้เสียสิ้น ญวนเข้ารักษาเมืองเอาเอง พวกเขมรโกรธแก่ญวน จึ่งคิดพร้อมกันกำเริบขึ้นจับญวนฆ่าเสียทุกเมือง แล้วก็รบต่อสู้ญวนซึ่งจะมาแก้ไขคืนเอาเมือง แล้วจึงมาขอยอมอยู่ในอำนาจของกรุงเทพมหานคร ขอกองทัพกรุงเทพมหานครให้ออกไปช่วยรบญวน แล้วขอนักพระองค์ด้วงน้องนักพระองค์อิ่มซึ่งยังอยู่ในกรุงเทพมหานครนั้นออกไปเป็นเจ้าเมืองเขมรสืบวงศ์ต่อไป ครั้นปีกุน เอกศก จุลศักราช ๑๒๐๑ ปลายปี (พ.ศ. ๒๓๘๒) มีคฤศตศักราช ๑๘๔๐ สมเด็จพระเจ้าแผ่นดินสยามเป็นที่ ๓ ในพระบรมราชวงศ์นี้ จึ่งได้ทรงจัดกองทัพไทยอุดหนุนอุปถัมภ์นักพระองค์ด้วงผู้น้องนักพระองค์อิ่มซึ่งพวกเขมรขอเข้ามานั้นออกไปพร้อมกับเขมรทั้งปวง รบกับญวน