หน้า:ประชุมพงศาวดาร (ภาค ๘) - ๒๔๖๐.pdf/100

หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
๘๗

 สมเด็จพระไปยิกาพระองค์ใหญ่นั้น ได้มีพระเอารส พระธิดา ๕ พระองค์ แล้วก็สิ้นพระชนม์ล่วงไปโดยนัยที่กล่าวมาแล้ว แต่เมื่อสิ้นพระชนม์นั้น พระชนมายุเท่าไรไม่ทราบถนัด พระไปยิกาพระองค์น้อยได้รับปรนิบัติสมเด็จพระบรมมหาไปยกาธิบดีในที่นั้น ต่อมา ได้ประสูตรพระธิดาพระองค์หนึ่ง แล้วจะสิ้นพระชนม์เมื่อใดก็หาได้ความเปนแน่ไม่ ได้ความเปนแน่แต่ว่า เมื่อเวลาพม่าเข้าล้อมกรุงเทพทวาราวดีศรีอยุทธยาเวลาที่สุดนั้น สมเด็จพระบรมมหาไปยกาธิบดีมีพระดำริห์จะออกจากกรุงเทพทวาราวดีศรีอยุทธยาหลีกหนีข้าศึกไปอยู่ให้ห่างไกล จะชักชวนพระเอารสพระธิดาทั้งปวงตามเสด็จไปด้วยพร้อมกัน พระเอารสพระธิดาทั้ง ๖ พระองค์ที่ทรงพระเจริญแล้วนั้นได้แยกย้ายไปตั้งสกุลอื่น มีพระบุตร พระบุตรี เกี่ยวข้องเปนห่วงใยพัวพันมากมาย จะรวบรวมมาพร้อมเพรียงกันแล้วคุมเปนพวกใหญ่ออกไปโดยง่ายหาได้ไม่ เมื่อได้ช่อง จึงได้พาแต่พระกุมารพระองค์น้อยกับหญิงบาทบริจาริกซึ่งเปนหม่อมมารดาของพระกุมารนั้นไปอาไศรยอยู่ณเมืองพระพิศณุโลก ได้ทรงปรนิบัติแด่เจ้าเมืองพระพิศณุโลกซึ่งทราบไปว่า กรุงเทพทวาราวดีศรีอยุทธยาอยู่ในเนื้อมือพม่าข้าศึกแล้ว ก็ถืออำนาจตั้งตนเปนเจ้าแผ่นดินใหญ่ขึ้นในเวลานั้น ได้ที่สมุหนายกอรรคมหาเสนาธิบดี ๚

 เจ้าเมืองพระพิศณุโลกนั้นมีจิตรกำเริบ บังคับให้ทอดโฉนดบาดหมายอ้างบังคับตนเรียกว่า พระราชโองการ โดยไม่มีการพิธี