หน้า:ประชุมพงศาวดาร (ภาค ๘) - ๒๔๖๐.pdf/90

หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
๗๗

หนักลง วันหนึ่ง หม่อมปีย์เสด็จออกมาสรงพระภักตร์อยู่ณษาสา พญาสุรศักดิเข้าไปจะจับ หม่อมปีย์วิ่งเข้าไปในที่พระบรรธมร้องว่า ทูลกระหม่อมแก้ว ช่วยเกล้ากระหม่อมฉันด้วย สมเด็จพระพุทธเจ้าอยู่หัวตรัสว่า อ้ายพ่อลูกนี้คิดทรยศจะเอาสมบัติ แล้วมีพระราชโองการสั่งให้ประจุพระแสงปืนข้างที่ แล้วให้พญาเพชราชา พญาสุรศักดิ ก็เข้าไปยืนอยู่ที่พระทวารทั้งสองคน สมเด็จพระนารายน์เปนเจ้าเสด็จบรรธมอยู่ ยื่นพระหัตถ์คลำเอาพระแสงปืน เผยอพระองค์จะลุกขึ้น ก็ลุกขึ้นมิได้ กลับบรรธมหลับพระเนตร ครั้นเพลาบ่าย พญาเพทราชาให้ไปเชิญพญาวิไชเยนทร์เข้ามาว่าปฤกษาราชการ แล้วให้ตำรวจไปกำกับประตูพระราชวัง สั่งว่า ข้าทูลลอองธุลีพระบาทฝ่ายทหารฝ่ายพลเรือนจะเข้ามาเฝ้า ให้เข้ามาแต่ถาดหมากคนโทมัดเฝ้า ครั้นพญาวิไชเยนทร์เข้ามาพร้อมกันณศาลาลูกขุน พญาเพทราชาว่า สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระประชวรอยู่บ้านป่าเมืองดอน เราจะให้แต่งกองร้อยกองตระเวน แลกองร้อยรอบพระราชวังชั้นหนึ่ง น่าเพนียดชั้นหนึ่ง พระตำหนักชุบศรนั้นไว้แต่ม้าเร็วคอยเหตุ พญาวิไชเยนทร์จึงตอบว่า ท่านว่าชอบแล้ว ก็ชวนกันขึ้นไปบนเชิงเทิน พญาวิไชเยนทร์ก็จัดป้อมปากตลาดฉลากให้เจ้าน่าที่อยู่รักษา พญาวิไชเยนทร์เดินไปประมาณเส้นหนึ่ง รักษาองค์เอาตะบองทีท้องหกล้มลง แล้วพญาสุรศักดิเข้าไปจับหม่อมปีย์ได้ เอาไปล้างเสียทั้ง