หน้า:ประมวลกฎหมาย รัชกาลที่ ๑ (๒) - ๒๔๘๑.pdf/290

หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
๒๘๘
วิวาทด่าตี

ผู้หนึ่งกลับล่วงค่ามรอยขีดตาม[วซ 1] ไปตีด่าฟันแทงกันก็ดี จเอาเปน
รุกนั้นมิได้ เหตุใช่ที่  บ้าน
แดน
เรือน
ตน ขีดรอยปันแดนเอาโดยใจนั้น
ไม่ชอบ
46
 ๔๖ มาตราหนึ่ง ผู้ใดอยู่บ้านอยู่เรือนในที่ทำเนเปล่า
หารั้วกั้นเปนสำคัญมิได้ กำหนดเขดบ้านเขดเรือนไว้ให้รู้
ดั่งนี้ คือให้หญิงสกันยืนตรงชายคาเรือนเอาน้ำสาดออกไป
น้ำตกถึงไหนชื่อว่าเขดเรือนถึงนั่น ถ้านอกจากเขดเรือนนั้น
มีรั้ววงกั้น เพื่อจะป้องกันโคกระบือเข้าออกเพียงใด ๆ ชื่อ
ว่าเขดบ้านผู้นั้นเพียงนั้น อนึ่งให้ชายสกันยืนขอกรั้วแลประตู
รั้วทัง ๔ ทิศ ทิ้งดินไปตกถึงไหน ได้ชื่อว่าแดนบ้านถึงนั่น ถ้า
ราษฎรอยู่เรือนใกล้กันหารั้วกั้นมิได้ ก็ให้กระลาการพิจารณา
กำหนดเอาแต่ที่พ้นจากเรือนออกไป เปนของเจ้าเรือน
เท่าใด ก็ให้เอาแต่เท่านั้นเปนแดน ถ้าผู้มีชื่อวิวาทกัน
มิได้รุกเข้าไปถึงในที่อันท่านกล่าวไว้นี้ จะเอาเปนรุกนั้น
มิได้สักอันเลย
 กล่าวลักษณมูลวิวาทกันจเอาเปนรุกได้มี[วซ 2] ได้โดยสังเขปแต่
เท่านี้


ม.ธ.ก.
 

  1. กำธร เลี้ยงสัจธรรม (2548, น. 258) แก้เป็น "มิ" และลงหมายเหตุว่า "ทั้งสองฉะบับเขียน มี"